จะรอดหรือไม่รอด

แต่ว่าในช่วงที่ผ่านมาจากปัญหาอาการบาดเจ็บของนักเตะทำให้ทีมต้องเผชิญกับความยากลำบาก รวมถึงรูปแบบการเล่นที่แฟนบอลเริ่มตั้งข้อสงสัยว่ามันล้าสมัยไปแล้วหรือไม่
กลายเป็นความท้าทายของนายใหญ่เชาออสเตรเลียที่ต้องพิสูจน์ตัวเองท่ามกลางโปรแกรมการแข่งขันที่อัดแน่นและวิกฤตเรื่องบาดเจ็บที่เลวร้ายที่สุดที่เจ้าตัวเคยเจอมาในรอบ 26 ปีของการเป็นผู้จัดการทีม
นอกจากปัญหาแข้งบาดเจ็บแล้วนักเตะที่เหลือยังมีปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่นที่ตกต่ำด้วยชัยชนะเพียงเกมเดียวจาก 8 นัดหลังสุด แม้ว่าชัยชนะครั้งนั้นก็คือการถล่ม แมนเชสเตอร์ ซิตี 4-0 ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อเดือนที่แล้ว จะเป็นหนึ่งในชัยชนะที่ดีที่สุดของพวกเขาในพรีเมียร์ลีกก็ตาม
สามแต้มครั้งประวัติศาสนั้นพิสูจน์ให้เห็นถึงสิ่งที่เป็นไปได้ภายใต้การคุมทีมของกุนซือวัย 59 ปี เมื่อทุกอย่างลงล็อก แต่แฟนบอลหลายคนก็ชี้ว่ามันแทบไม่มีความหมายเลยเพราะก่อนหน้านั้นทีมแพ้ อิปสวิช 1-2 รวมถึงการแพ้ บอร์นมัธ อย่างน่าผิดหวังด้วย
แรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ พอสเตโคกลู สติแตกถึงขั้นวิจารณ์ ติโม แวร์เนอร์ ออกสื่อ ภายหลังที่ทีมเสมอ เรนเจอร์ส 1-1 ในศึก ยูโรปา ลีก
การกระทำของ แอนจ์ กลายเป็นจุดที่สื่อให้ความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนหน้านี้ คริสเตียน โรเมโร่ กล้องหลังของทีมเคยวิจารณ์ แดเนี่ยล เลวี่ ประธานสโมสรเรื่องการเสริมทีมมาแล้วหลังความพ่ายแพ้ขานานให้กับ เชลซี
อย่างไรก็ตาม แอนจ์ ออกมาแก้ต่างว่าการวิจารณ์ แวร์เนอร์ คือการประเมินผลงานนักเตะรวมถึงเป็นการชี้แนะให้มีความพยายาม และพัฒนามากขึ้นกว่านี้
จนถึงตอนนี้ พอสเตโตกลู ยังไม่ถือว่าถูกประเมินว่าผิดพลาดกับ สเปอร์ส และเขายังคงได้รับการหนุนหลังจากสโมสร
เพราะทางบอร์ดบริหารมองว่าอาการบาดเจ็บของผู้เล่นส่งผลกระทบต่อการจัดทีมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อทีมไม่มีทั้ง กูเยร์โม่ วิคาริโอ, คริสเตียน โรเมโร่, มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน, เบน เดวีส, ไมกี้ มัวร์ และ ริชาลีซอน ในขณะที่ โรดรีโก้ เบนตานกูร์ โดนแบนยาว 7 เกม โทษฐานแสดงความคิดเห็นไปในเชิงเหยียดเชื้อชาติเพื่อนร่วมทีมอย่าง ซน ฮึง-มิน
แน่นอนว่า ปอสเตโคกลู ได้รับการสนับสนุนจากนักเตะซึ่งโรเมโร่ ได้แสดงความคิดเห็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่มีประเด็นพาดพิงบอร์ดบริหารนั่นเอง
แต่ดูเหมือนว่าสำหรับแฟนบอลแล้วจะเกิดความแตกแยกกันอยู่บ้าง โดยบางคนไม่เชื่อแนวทางของ พอสเตโคกลู ว่าจะนำความสำเร็จมาสู่สโมสรได้อย่างที่เขาลั่นวาจาไว้ บางคนถึงกับตะโกนด่าทอเขาจากอัฒจรรย์ของสนาม วิทาลิตี้ สเตเดียม หลังพ่ายแพ้ให้ บอร์นมัธ
แต่ในวันของพวกเขาทีมสามารถเล่นฟุตบอลได้ดีอย่างที่เราได้เห็นจากเกมชนะ ซิตี้ ชนิดไม่มีใครคาดคิด แต่ก็อย่างที่บอกไปว่าบางครั้งพวกเขาก็แพ้แบบไม่น่าให้อภัย
ด้วยการเล่นที่เน้นเกมรุกเป็นหลักทำให้หลายครั้งทีมโดนสวนกลับและเสียประตู พอสุดท้ายเกมรุกยิงไม่ได้ก็จบลงด้วยมือเปล่า
กับชัยชนะในเกมล่าสุดที่บุกถล่ม เซาธ์แฮมป์ตัน อย่างสวยงาม 5-0 แม้จะสร้างรอยยิ้มให้กับแฟนบอลได้ แต่ก็ยังคนหวั่นใจว่ามันจะเป็นเหมือนพลุที่สวยงามเพียงแค่แวบเดียวแล้วก็หายไป
และถึงแม้จะได้รับการสนับสนุนจากบอร์ดบริหารแต่ไม่มีอะไรการันตีว่า พอสเตโคกลู จะอยู่รอดในระยะยาว ซึ่งถ้า ดูจากตอนนี้แล้วทางรอดของเขาอาจจะอยู่ที่โทรฟี่สักใบ และความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือรายการ คาราบาว คัพ ที่ตอนนี้ทีมอยู่ในรอบก่อนรองชนะเลิศ กับการเจอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม ในวันพฤหัสบดีนี้
แต่อย่างว่ากับทีมอย่าง สเปอร์ส อะไรก็เกิดขึ้นได้ ขนาด โชเซ่ มูรินโญ่ ยังเคยโดนปลดจากตำแหน่งก่อนเกมชิงถ้วย คาราบาว คัพ มาแล้ว!