ก่อนเกมสำคัญ

ความได้เปรียบคือการที่พวกเขาเจอกับ เอสเปรานซ์ เดอ ตูนิส ที่เป็สคู่แข่งลุ้นเข้ารอบโดยตรง และทีมได้เปรียบตรงที่ขอแค่เสมอก็เพียงพอต่อการเข้ารอบต่อไปจากผลต่างประตูได้-เสียที่ดีกว่าในตอนนี้
แต่นั่นคงไม่ใช่เป้าหมายของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ในเมื่อทีมถูกมองว่าเป็นสโมสรแกร่งประจำกลุ่มและควรจะเข้ารอบต่อไปในฐานะแชมป์กลุ่ม
เพราะฉะนั้นผลเสมอคงไม่ใช่สิ่งที่ "สิงห์บลูส์" ต้องการ เพราะการแพ้ให้กับ ฟลาเมงโก้ ก็โดนด่าจะแย่อยู่แล้ว แม้ว่าทีมจะต้องเล่นด้วยนักเตะที่น้อยกว่าเกือบครึ่งชั่วโมงก็ตามที
ทาง โรเบิร์ต ซานเชซ ให้สัมภาษณ์ผ่านทางเว็บไซด์ของสโมสรก่อนที่จะลงเล่นเกมสำคัญที่จะเกิดขึ้นในวันอังคารหรือช่วงเช้าวันพุธ ตามเวลาในประเทศไทย ถึงบทบาทของตัวเองและหน้าที่ผู้รักษาประตู รวมถึงการสื่อสารกับครอบครัว
"ผมไม่เคยเป็นผู้รักษาประตูที่อายุมากที่สุดในทีมมาก่อน ถือเป็นประสบการณ์ใหม่แต่ผมก็สนุกกับมัน ผมชอบที่จะมีความรับผิดชอบ"
"ผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ ผมอายุ 27 ปีแล้ว มีแค่ ทอส (โทซิน อดาราบิโอโย่) ที่อายุเท่ากันในทีม ดังนั้นมันสำคัญสำหรับผมในการช่วยเป็นผู้นำและคอยแนะนำรวมถึงให้การสนับสนุน"
"ไม่ใช่แค่กับผู้รักษาประตูเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทั้งทีมด้วย เราเผชิญหน้ากับความท้าทายบางอย่างตลอดสองฤดูกาลที่ผ่านมาซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของการสร้างทีมใหม่ แต่เราได้ฉลองช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมและสร้างความทรงจำให้กับแฟนบอล นั่นคือสิ่งที่เราต้องการอย่างมาก คุณรู้ใช่ไหมล่ะ?"
"นั่นคือเหตุผลที่เราผิดหวังจากผลงานในเกมกับ ฟลาเมงโก้, เราเสียประตูที่ปกติมันไม่เกิดขึ้นและผลลัพธ์ก็ไม่ใช่แบบที่เราต้องการ แต่ก็มีโอกาสที่จะตอบสนองอย่างรวดเร็วในทัวนาเมนต์แบบนี้และเรารู้ว่าต้องทำอะไรในวันอังคาร - คว้าชัยชนะและผ่านเข้ารอบต่อไป"
"การได้เจอกับทีมจากหลายประเทศถือเป็นเรื่องที่เจ๋งมาก นั่นคือหนึ่งในเหตุผลที่ผมสนุกกับศึกชิงแชมป์สโมสรโลกจนถึงตอนนี้ มันเป็นความรู้สึกและประสบการณ์ที่แตกต่างและเป็นเรื่องที่ดีสำหรับทีมที่ได้มีเวลาร่วมกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักเตะใหม่อย่าง ไมค์ (เปนเดอร์ส), มามาดู (ซาร์), ดาริโอ (เอสซูโก้) และ เลียม (ดีแล็ป)"
"ผมจะไม่แกล้งทำเป็นว่าทุกอย่างมันง่ายไปซะหมด ผมมีลูกสาวอายุ 18 เดือนอยู่ที่บ้าน และคู่ชีวิตของผมก็กำลังตั้งท้องลูกคนที่สองอยู่ ด้วยความแตกต่างของเวลาที่ สหรัฐ อเมริกา ตารางการนอนกลางวันและการฝึกซ้อมทำให้การพูดคุยกับพวกเขาเป็นเรื่องยาก แต่ผมพยายามหาเวลาซักชั่วโมงเพื่อเล่นและคุยกับครอบครัวทางโทรศัพท์ ซึ่งมันสำคัญกับผมมากๆ"
"แน่นอนว่าผมมีความสนิทสนมกับผู้รักษาประตูคนอื่นในทีม อย่างที่ผมเคยบอกไปแล้ว ผมเป็นคนที่อาวุโสที่สุดดังนั้นผมจึงพยายามเป็นผู้นำในเรื่องต่างๆ วันก่อนที่เราหยุดพักผมพาพวกเขาไปที่ นิวยอร์ก ซิตี้ และเราก็ใช้เวลาทั้งวันกับการสำรวจเมือง ถ่ายรูป และรับประทานอาหารด้วยกัน"
"เมื่อทุกคนมีความสนิทสนมกันแบบนั้นมันช่วยให้คุณทำผลงานได้ดีขึ้น คุณรู้สึกถึงแรงสนับสนุน นั่นคือสิ่งที่ผมพยายามจะมอบให้กับพวกเขาด้วยเช่นกันเพราะ ฟิลิป (ยอร์เกนเซ่น) อายุ 23 ปี, กาก้า (กาเบรียล สโลนิน่า) อายุ 21 ปี และ ไมค์ (เปนเดอร์ส) อายุ 19 ปี ซึ่งพวกเขาย้ายมาอยู่ที่ อังกฤษ ด้วยอายุที่น้อยมาก ผมอยู่ที่นี่มานานแล้ว บางทีอาจจะเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมตอนนี้ผมอยากให้อากาศเย็นกว่านี้! เพื่อที่ผมจะได้แบ่งปันประสบการณ์ของผม"
"ผมได้รับสิ่งเหล่านั้จากหลายวิธี ผมเคยถูกยืมตัวไปเล่นให้กับลีกระดับล่างในช่วงแรกของอาชีพ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมีความสำคัญมากในการพัฒนาตัวเอง ผมได้เรียนรู้มากมายและสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผมก้าวจากผู้รักษาประตูที่มีศักยภาพไปสู่คนที่พร้อมเล่นในพรีเมียร์ลีกได้"
"จากนั้นคุณต้องพิสูจน์ตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันเหมือนกันสำหรับทุกคนในทีมแต่ผมต้องบอกว่าผมรักทีมนี้และห้องแต่งตัวก็ยอดเยี่ยมมาก พวกเราทุกคนเข้ากันได้ดีและการทำงานกับหัวหน้าโค้ชและทีมสตาฟฟ์ ทุกคนอยู่ในระดับแถวหน้า
"ผมคิดว่าเราพัฒนาขึ้นตลอดทั้งฤดูกาลและเราไปถึงจุดที่เราสามารถก้าวต่อไปและคว้าชัยชนะที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ การคว้าแชมป์ คอนเฟอเรนซ์ สำคัญมากสำหรับเราในเรื่องนี้ เกมเยือน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ก็เช่นกัน นั่นเป็นเกมชิงชนะเลิศสองนัดที่เราต้องชนะและทำได้สำเร็จ"
"นั่นมีความสำคัญสำหรับพวกเราและแฟนบอล นั่นแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเราสามารถเอาชนะแรงกดดันและรับมือกับเกมที่ยากได้"
"ในฐานะทีมเราต้องการไปสู่เวทีที่ใหญ่ขึ้น อย่างเช่นที่นี่ในการแข่งขันสโมสรโลก นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องทุ่มสุดตัวเพื่อผ่านเข้ารอบและสู้ตลอดช่วงการแข่งขันที่เหลือ เรารู้ว่าเราต้องทำอะไร"