เชลซี กับทีมจาก บราซิล

แน่นอนว่าการเจอกับทีมจากแดน "แซมบ้า" ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก แม้จะนัดอุ่นเครื่องกันได้ แต่เรื่องของการเดินทางมีค่าใช้จ่ายสูงไปว่าจะไปเจอกับที่ บราซิล หรือมาเล่นกันที่ อังกฤษ
ดังนั้นที่ผ่านมาทั้ง 3 เกม ล้วนเป็นการเจอกันในรายการนี้ซึ่งในอดีตการแข่งขันมีขนาดเล็กกว่า และเป็นการเจอกับ 3 ทีมที่ไม่ซ้ำหน้า นี่จะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเจอกับ พัลเมรัส เป็นหนที่ 2
ก่อนไปจะถึงเกมที่ ลินคอล์น ไฟแนนเชี่ยล ฟิลด์ วันนี้เราจะไปดูกันว่าจาก 3 เกมก่อนหน้านี้ผลงานของ เชลซี เป็นยังไงบ้าง
ฟลาเมงโก 3-1 เชลซี
20 มิถุนายน 2025
เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เลยในรอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมานี่เองกับการเจอ ฟลาเมงโก ทีมจ่าฝูงของ ซีรี่ย์ เอ บราซิล
ในเกมนี้ทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ขึ้นนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 13 ของเกมจาก เปโดร เนโต้ และรักษาสกอร์เอาไว้ได้ในครึ่งแรก แต่ว่าครึ่งหลังทีมมาเสีย 2 ประตูรวดให้กับ บรูโน่ เอ็นรีเก้ นาทีที่ 62 และ ดานีโล่ นาทีที่ 65
ซ้ำร้าย นิโกล่าส์ แจ็คสัน ที่ถูกส่งลงเล่นแทน เลียม ดีแล็ป ไม่ถึง 5 นาที ดันมาโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม สุดท้ายมาโดนเจาะตาข่ายอีกลูกนาทีที่ 83 จาก วัลเลซ ยาน
แต่ทีมยังเข้ารอบเป็นอันดับที่ 2 ของกลุ่มจากชัยชนะ 2 เกมเหนือ แอลเอเอฟซี 2-0 ในเกมเปิดสนาม และ อีเอส ตูนิส ในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม
พัลเมรัส 1-2 เชลซี
12 กุมภาพันธ์ 2022
ครั้งแรกและครั้งเดียวที่ เชลซี ได้แชมป์รายการ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ที่จัดการแข่งขันกันที่ สหรัฐ อาหรับ เอมิเรตส์ โดยทีมเข้าไปแข่งขันในฐานะแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ภายใต้การคุมทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล ทีมลงเล่นในรอบรองชนะเลิศและเอาชนะ อัล ฮิลาล ทีมดังจาก ซาอุดิอาระเบีย 1-0 จากประตูของ โรเมลู ลูกากู ในขณะที่ พัลเมรีส เอาชนะ อัล อาห์ลี ทีมจาก อียิปต์ 2-0
ในรอบชิงชนะเลิศ "สิงห์บลูส์" ได้ประตูขึ้นนำจาก โรเมลู ลูกากู ที่โหม่งลูกเปิดของ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย เข้าไปนาทีที่ 54 แต่ 10 นาทีให้หลังทีมเสียจุดโทษจากจังหวะแฮนด์บอลของ ติอาโก้ ซิลวา และ เรนาโต้ เวก้า ยิงเข้าไป จบ 90 นาทีที่สกอร์ 1-1 ต้องสู้กันในช่วงต่อเวลาพิเศษ
การแข่งขันยื้อไปจนถึงช่วงท้ายและ เชลซี ก็มาได้จุดโทษบ้างจากแฮนด์บอลของ ลวน การ์เซีย และเป็น ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่สังหารเข้าไปและเป็นประตูชัยให้ทัพสิงโตนำเงินคราม คว้าชัย 2-1 ซิวแชมป์ไปครอง
โครินเธียนส์ 1-0 เชลซี
16 ธันวาคม 2012
ครั้งแรกกับการลงเล่นในรายการนี้ของ เชลซี ในฐานะแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ภายใต้การคุมของ ราฟาเอล เบนีเตซ
"สิงห์บลูส์" ที่ออกสตาร์ทด้วยการเจอ มอนเตร์เรย์ ในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งทีมเอาชนะไปได้ไม่ยาก 3-1 โดยได้ประตูจาก ฆวน มาต้า นาทีที่ 17, เฟร์นานโด ตอร์เรส นาทีที่ 46 และ ดาร์วิน ชาเวซ กองหลังของคู่แข่งที่ทำเข้าประตูตัวเอง ส่วน ทีมดังจาก เม็กซิโก ตีไข่แตกจาก เฮซุส เด นิกริส ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
ในเกมชิงชนะเลิศที่ โยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น ทีมเจอกับ โครินเธียนส์ สโมสรแกร่งจากบราซิล ที่เน้นความแข็งแกร่งของร่างกายและสร้างปัญหาให้ตลอด และเป็น เปาโล เกร์เรโร่ อดีตกองหน้าคนดังของ บาเยิร์น มิวนิค ในนาทีที่ 70
ช่วงท้ายเกม เชลซี มาส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้เช่นกันจาก เฟร์นานโด ตอร์เรส แต่เป็นจังหวะล้ำหน้าไป แถมนาทีสุดท้าย แกรี่ เคฮิลล์ ยังมาโดนใบแดงไล่ออกจากสนามด้วย