ค่าจ้างที่พุ่งสูงขึ้น

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือสโมสรที่จ่ายค่าเหนื่อยสูงสุดที่ 413 ล้านปอนด์ ตามด้วย ลิเวอร์ฑูล 377 ล้านปอนด์, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 365 ล้านปอนด์, เชลซี 338 ล้านปอนด์ และ อาร์เซน่อล 328 ล้านปอนด์
แอสตัน วิลล่า ที่ตามมาเป็นอันดับ 6 จ่ายค่าจ้างที่ 252 ล้านปอนด์ ห่างไกลจาก "ปืนใหญ่" ถึง 76 ล้านปอนด์
ตัวเลขดังกล่างถูกรวบรวมโดยบล็อกเกอร์ฟุตบอลนาม คีแรน โอคอนเนอร์ ซึ่งเป็นเจ้าของบล็อกการเงินฟุตบอลที่ชื่อว่า เดอะ สวิส แรมเบิล
เขาเผยว่า เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ คือนักเตะที่รับค่าเหนื่อยสูงสุดในลีกที่ 500,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ในขณะที่ฝั่ง "หงส์แดง" เป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ต่อสัญญาใหม่รับอยู่ที่ 400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโควิด 2019 ตอนนั้นค่าจ้างนักเตะทั้งลีกอยู่ที่ 2.9 พันล้านปอนด์ เท่านั้น ระยะเวลาเพียง 6 ปีเศษ ค่าจ้างนักเตะพุ่งเป็น 4 พันล้านปอนด์ หรือสูงขึ้นถึง 38 เปอร์เซ็นต์
เมื่อไล่เรียงอันดับทีมที่จ่ายเงินค่าเหนื่อยก็ยังแสดงให้เห็นว่าบรรดาสโมสรใหญ่ยังมีช่องว่างกับทีมอื่นๆ อยู่พอสมควร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองที่ ลูตัน ทาวน์ ที่จ่ายค่าจ้างผู้เล่นที่ 57 ล้านปอนด์ เมื่อเจอกับอันดับ 1 อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องบอกว่าคนละเรื่อง
3 ทีมที่ตกชั้นเป็น 3 สโมสรที่จ่ายค่าจ้างไม่ถึง 100 ล้านปอนด์ ซึ่งนอกจาก ลูตัน ทาวน์ ก็มี เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่ 64 ล้านปอนด์ และ เบิร์นลี่ย์ 93 ล้านปอนด์
ในขณะที่ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ยอมรับว่าค่าจ้างของตัวเองสูงอย่างมากจากการเซ็นสัญญายาวถึงปี 2034 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่เจากการเปิดเผยของ ฟอร์บส์ เขาก็ยังอยู่ไกลถึงอันดับที่ 27 ของนักกีฬาที่มีรายได้สูงที่สุดในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ลิโอเนล เมสซี่ และ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้
และเมื่อเทียบกับ แพทริค มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็กของ แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ ที่เซ็นสัญญามูลค่าถึง 410 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2021 เรียกได้ว่าเทียบกันไม่ได้เลย
หรือจะย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วทีมเบสบอลของ นิวยอร์ค เมต์ ตกลงจ่ายเงินให้ ฆวน โซโต มหาศาล 628 ล้านปอนด์กับสัญญายาว 15 ปี
เควิน เดอ บรอยน์ เพื่อนร่วมทีมของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เคยออกมาบอกก่อนหน้านี้ว่าเขาเชื่อว่านักฟุตบอลชั้นนำได้ค่าจ่างต่ำเกินไป แม้ว่าจะรับอยู่ที่ 400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
ในระห่างให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2022 ว่าเขาได้เงินมากเกินไปรึเปล่าทาง เดอ บรอยน์ กล่าวว่า "ไม่เลย ผมเปรียบเทียบมันกับนักร้องในคอนเสิร์ตที่มีคนดู 60,000 คน ผมมองมันอย่างมีเหตุผล"
"มีคนดูฟุตบอลทางทีวีเป็นล้าน มีแฟตบอล 60,000 คนมาดูเกมในสนาม รายได้ของสโมสรอยู่ที่ 500-600 ล้านปอนด์ ใช่ มันเป็นเงินมหาศาล แต่มันมากเกินไปหรือเปล่า?"
"ถ้าสโมสรจ่ายไหวมันก็ไม่มากเกินไป"
ในเดือนมีนาคม ตัวเลขเผยให้เห็นว่าค่าจ้างของผู้เล่นทั่วทั้งยุโรปนั้นสูงถึง 15.1 พันล้านปอนด์ ในฤดูกาล 2023/24 สูงถึง 6.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
หลังจากมีการเผยแพร่รายงานการเปรียบเทียบใบอนุญาตสโมสรของ ยูฟ่า ฉบับล่าสุดทาง อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ประธานยูฟ่า ได้ทำการเตือนทีมต่างๆ เกี่ยวกับการจ่ายเงินจำนวนมากเกินไปให้กับผู้เล่นของตัวเอง
"ในขณะที่สโมสรส่วนใหญ่ดูจะมีการบริหารจัดการเพิ่มค่าจ้างของนักเตะอย่างมีความรับผิดชอบ แต่ว่าต้นทุนในส่วนอื่นๆ กลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานมีความกดดันมากขึ้นกว่าที่เคย สโมสรต้องเฝ้าระวังกันต่อไปเนื่องจากยังมีงานต้องทำอีกมากเพื่อฟื้นฟูเรื่องผลกำไรหลังเกิดโรคระบาด"
ปัจจุบันสโมสรภายใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต้องอยู่ภายใต้กฎผลกำไรและความยั่งยืน (PSR) ทุกปี ไม่เช่นนั้นจะต้องเผชิญกับการลงโทษ อย่างที่เราได้เห็นทั้ง เอฟเวอร์ตัน และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ โดนหักคะแนน
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์มีรายงานว่าสมาคมฟุตบอลซึ่งทำหน้าที่แทนนักเตะขู่ พรีเมียร์ลีก ว่าจะดำเนินการทางกฎหมายหากกำหนดเพดานเงินเดือน ในขณะที่เมื่อปีที่แล้วสโมสรต่างๆ ลงมติว่าจะพิจารณานำเรื่องเพดานค่าใช้จ่ายมาใช้ตั้งแต่ต้นฤดูกาล 2025/26 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบควบคุมการเงินใหม่
กฎหมายดังกล่าวจะจำกัดให้สโมสรต่างๆ ใช้เงิน 85 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมดไปกับค่าจ้าง การจ่ายเงินย้ายทีม และค่าธรรมเนียมของตัวแทน
ไนเจล เคอร์รี่ ที่ปรึกษาด้านสปอนเซอร์กล่าวว่า "นักฟุตบอลคือดาวเด่น พวกเขาคือผู้ที่มีความสามารถและเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมชมหลายล้านคนเข้ามาดูเกมในทุกสัปดาห์และซื้อชุดแข่ง"
"พรีเมียร์ลีก ประสบความสำเร็จอย่างมาก เป็นลีกที่รวยที่สุดในโลกและจะเป็นเช่นกันต่อไป ผู้เล่นจะยังคงจะได้รับเงินมหาศาลกันต่อไปและสปอนเซอร์ก็จะมีมูลค่าสูงขึ้นอย่างมากด้วย"