ก่อนเกมใหญ่กับ ลิเวอร์พูล

ด้วยผลงานในลีกที่ทีมแพ้มา 2 เกมติดอย่างน่าผิดหวังให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ไบรท์ตัน ยังดีที่ช่วงเวลานั้นมีเกม คาราบาว คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ทีมคว้าชัยชนะมาได้ ทำให้กระแสไม่ได้รุนแรงอะไรมากมายนัก
แต่นั่นก็ไม่อาจนิ่งนอนใจได้หลัง เบห์ดาด เอ็กห์บาลี่ เจ้าของร่วมและผู้บริหารตรงเข้าห้องแต่งตัวทันทีภายหลังแพ้ ไบรท์ตัน ที่กลายเป็นที่พูดถึงในทันที แม้ทาง เอ็นโซ่ มาเรสก้า จะบอกว่าเป็นเรื่องปกติและไม่ได้มีอะไรในกอไผ่
เกมกับ "หงส์แดง" ในวันเสาร์นี้ นอกจากนี้วัดฝีมืออีกครั้งแล้ว มันยังจะเป็นตัวบ่งบอกด้วยเหมือนกันว่าทีมดีพอในการก้าวขึ้นไปลุ้นแชมป์ในรีเปล่าด้วย
การพบกันช่วงที่ผ่านมา
หลังจากเอาชนะ ลิเวอร์พูล ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ทาง เชลซี หวังจะชนะเกม พรีเมียร์ลีก เหนือ "แชมป์เก่า" เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2014 (ชนะ 3 เกมติด)
ซึ่งมันก็ดูมีความเป็นไปได้เมื่อมองจากสถิติที่ "หงส์แดง" ไม่ชนะที่นี่มา 4 เกมติด (เสมอ 3 แพ้ 1) และอาจจะมาแพ้ที่นี่ติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เคยแพ้ 3 เกมติดต่อกันช่วงฤดูกาล 2004/25 ถึง 2006/07
ผลการพบกัน (รวมทุกรายการ)
ลงสนาม : 198 เกม
ชนะ : 66
เสมอ : 49
แพ้ : 83
สกอร์ห่างที่สุดของทั้งสองทีม
เชลซี 6-1 ลิเวอร์พูล - ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 1937/39
ลิเวอร์พูล 6-0 เชลซี - ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 1934/34
ลิเวอร์พูล ชนะที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ สกอร์ห่างที่สุดคือ 5-2 ใน ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 1989/90
การพบกัน 5 นัดหลังสุดที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์
4 พฤษภาคม 2005 - เชลซี ชนะ 3-1
13 สิงหาคม 2023 - เสมอ 1-1
4 เมษายน 2003 - เสมอ 0-0
2 มกราคม 2022 - เสมอ 2-2
20 กันยายน 2020 - แพ้ 0-2
สถิติของ เชลซี
4 จาก 5 เกมหลังที่ เชลซี แพ้ใน 24 เกมทุกรายการมีใบแดงเกิดขึ้น (นิวคาสเซิ่ล, ฟลาเมงโก้ (สโมสรโลก), แมนฯ ยูไนเต็ด และ ไบรท์ตัน) โดยอีกเกมที่แพ้คือการแพ้ บาเยิร์น มิวนิค
กับการแพ้ 2 เกมหลังสุดใน พรีเมียร์ลีก - เชลซี หวังหลีกเลี่ยงการแพ้ 3 เกมติดต่อกันในลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2023 (แพ้ 4 เกมติด)
เชลซี แพ้ 4 จาก 5 เกมหลังที่เจอกับทีมแชมป์เก่า (เสมอ 1) ในบ้านเกม พรีเมียร์ลีก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่แพ้นานถึง 13 เกม (ชนะ 7 เสมอ 6 ช่วงฤดูกาล 2002/02 ถึง 2019/20)
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นครั้งแรกที่ทั้ง เชลซี, ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้เกมลีกวันเดียวกัน นับตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 1994 โดยกินเวลานาน 31 ปีกับ 164 วัน
ตัวเลข
ในเกมกับ เบนฟิก้า เมื่อวันอังคาร, มอยเซส ไกเซโด้ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเกมที่ 100 ให้กับสโมสร ในขณะที่ เบอนัวต์ บาเดียชิล สตาร์ทเกมที่ 50 ในทุกรายการ
สถิติของ ลิเวอร์พูล
ฤดูกาลที่แล้ว
พรีเมียร์ลีก : เก็บได้ 84 คะแนน ทิ้งห่าง อาร์เซน่อล อันดับ 2 ที่ 10 คะแนน ถือเป็นแชมป์ที่แต้มต่ำสุดนับตั้งแต่ที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ทำได้ 81 คะแนน เมื่อฤดูกาล 2015/16
เอฟเอ คัพ : แพ้ พลีมัธ 0-1 ตกรอบ 4
คาราบาว คัพ : แพ้ นิวคาสเซิ่ล 1-2 ในรอบชิงชนะเลิศ
แชมเปี้ยนส์ ลีก : แพ้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ดาวซัลโว (ทุกรายการ) : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 34 ประตู
ดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 29 ประตู (ได้รองเท้าทองคำ)
สถิติใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้
ลงเล่นมากที่สุด (เต็ม 540 นาที) : อาลีสซง, ซาลาห์, โซบอสไล, ฟาน ไดค์ (540 นาทีทุกคน)
ทำประตูมากที่สุด : เอกีตีเก้ 3 ประตู, เคียซ่า 2 ประตู, กราเฟนแบร์ค 2 ประตู. ซาลาห์ 2 ประตู
แอสซิสต์มากที่สุด : กัคโป 2 แอสซิสต์, ซาลาห์ 2 แอสซิสต์
ลิเวอร์พูล ชนะ 5 เกมแรกของฤดูกาลก่อนจะมาแพ้ คริสตัล พาเลซ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ตลอดทั้ง 7 เกมของฤดูกาลนี้ทุกรายการของ ลิเวอร์พูล ตัดสินผลแพ้ชนะด้วยผลต่างเพียงประตูเดียว
ลิเวอร์พูล ชนะ 6 จาก 8 เกมในฤดูกาลนี้ โดยได้ประตูชัยในนาทีที่ 83 หรือหลังจากนั้น
- นาทีที่ 88 เจอ บอร์นมัธ (4-2)
- นาทีที่ 90+10 เจอ นิวคาสเซิ่ล (3-2)
- นาทีที่ 83 เจอ อาร์เซน่อล (1-0)
- นาทีที่ 90+5 เจอ เบิร์นลี่ย์ (1-0)
- นาทีที่ 90+2 เจอ แอต. มาดริด (3-2)
- นาทีที่ 85 เจอ เซาธ์แฮมป์ตัน (2-1)
สำหรับ ลิเวอร์พูล ได้ประตูชัยใน พรีเมียร์ลีก ในนาทีที่ 90 หรือหลังจากนั้นมากถึง 47 ครั้ง มากกว่าคู่แข่งร่วมลีกอย่างน้อยถึง 13 ครั้ง
ลิเวอร์พูล ทำประตูใน พรีเมียร์ลีก มาแล้ว 40 เกมติดต่อกัน ถือเป็นสถิติที่นานที่สุด ทีมสุดท้ายที่ไม่เสียประตูในการเจอพวกเขาคือ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2024
ทีมของ อาร์เน่อ สล็อต ยิงประตูแรกของเกมยามเล่นนอกบ้านได้ 7 จาก 9 เกมหลังใน พรีเมียร์ลีก
ลิเวอร์พูล หวังเลี่ยงการแพ้ในลีกติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2023 โดยพวกเขาแพ้ 3 เกมติดต่อกันให้กับทีมจาก ลอนดอน (รวมเจอ เชลซี เมื่อเดือนพฤษภาคม) ซึ้งเป็นสถิติแย่ที่สุดในการแพ้ทีมจากเมืองหลวง (4 เกมติด ช่วงเดือนตุบาคม 2009 ถึง พฤศจิกายน 2010)
ลิเวอร์พูล แพ้ 4 จาก 7 เกมหลังสุดที่ออกไปเยือนใน พรีเมียร์ลีก (ชนะ 3, รวมแพ้ เชลซี ในเดือนะฤษภาคม) มากกว่าที่เกิดขึ้น 39 เกมก่อนหน้านี้ซะอีก
อเล็กซานเดอร์ อีซัค ยิงประตูได้ตลอด 2 เกมหลังที่มาเล่นที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เกิดขึ้นตอนอยู่ นิวคาสเซิ่ล ใน 2 ฤดูกาลก่อหน้าแต่ทีมจบด้วยความพ่ายแพ้ทั้ง 2 เกม
สถิติของ อาร์เน่อ สล็อต เจอกับ เชลซี - ชนะ 1 แพ้ 1
ทีมผู้ตัดสิน
ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์
ผู้กำกับเส้น : แกรี่ เบสวิค, อดัม นันน์
ผู้ตัดสินที่ 4 : ฟาไร อัลลัม
วีเออาร์ : เคร็ก พอว์สัน