แมนฯ ยูไนเต็ด - นิวคาสเซิ่ล

แมนฯ ยูไนเต็ด

ผีแดง ถล่ม ฟอเรสต์ ด้วยสกอร์รวม 5-0 ในรอบตัดเชือกจนผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ โดยพวกเขาไม่สามารถคว้าถ้วยรางวัลใดได้เลยนับตั้งแต่ปี 2016-17 ที่ได้ลีก คัพ และยูโรปา ลีก

เอริก เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ จะไม่มี อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล อย่างแน่นอนเนื่องด้วยอาการบาดเจ็บ ขณะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยังต้องรอเช็กความฟิต แต่ก็คาดว่าน่าจะพร้อมลงสนามได้

ในรายของ คริสเตียน เอริคเซ่น และ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ที่บาดเจ็บพักยาวยังชวดเหมือนเดิม ส่วนขุมกำลังหลักที่เหลืออยู่กันครบ

นิวคาสเซิ่ล

สาลิกาดง ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1991 โดยลุ้นคว้าแชมป์แรกในรอบเกือบ 54 ปี ซึ่งล่าสุดคือถ้วยอินเตอร์-ซิตี้ส์ แฟร์ส คัพ ในปี 1969

กุนซือ เอ็ดดี้ ฮาว จะได้ บรูโน่ กิมาไรช์ พ้นโทษแบนกลับมาพร้อมช่วยทีมอีกครั้ง หลังหายหน้าไปตลอด 3 นัดที่ผ่านมา แต่ยังต้องรอเช็กความฟิตของทั้ง โชเอลินตอน และ โจ วิลล็อค

สำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตูคาดว่า ลอริส คาริอุส มีโอกาสลงสนามมากกว่า มาร์ค จิลเลสพี นายทวารอีกคน โดยที่ นิค โป๊ป มือหนึ่งของทีมติดโทษแบน ขณะที่ มาร์ติน ดูบราฟก้า ก็ติดคัพไท

11 ตัวจริงตามคาด

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - ดีโอโก้ ดาโล่ต์, ราฟาแอล วาราน, ลีซานโดร มาร์ตีเนซ, ลุค ชอว์ - กาเซมีโร่, เฟร็ด - บรูโน่ แฟร์นันด์ส, เวาต์ เว็กฮอร์สต์, เจดอน ซานโช่ - มาร์คัส แรชฟอร์ด

นิวคาสเซิ่ล (4-3-3) : ลอริส คาริอุส - คีแรน ทริปเปียร์, ฟาเบียน แชร์, สเวน บ็อตมัน, แดน เบิร์น - ฌอน ลองสต๊าฟฟ์, บรูโน่ กิมาไรช์, โจ วิลล็อค - มิเกล อัลมิรอน, คัลลั่ม วิลสัน, โชเอลินตอน

ผู้ตัดสิน : เดวิด คูต

สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม

แมนฯ ยูไนเต็ด มาด้วยสภาพความพร้อมที่ดีกว่า ผลงานของทีมก็กำลังติดลมบนอย่างต่อเนื่อง ด้าน นิวคาสเซิ่ล กับการไม่มี นิค โป๊ป เชื่อว่าน่าจะส่งผลกระทบเยอะเลย เชื่อว่าบดกันหนักๆ เข้าจะเป็น ผีแดง ที่ทำได้ดีกว่า และน่าจะเอาชนะได้ในเวลา 90 นาที

ผลที่คาด

แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-1