ไวท์ ดีกรีทีมชาติอังกฤษอาจมีจุดเด่นที่ตั้งบอลจากแดนหลังได้ แต่มีปัญหาเรื่องป้องกันลูกกลางอากาศเพราะสูงแค่ 6 ฟุต อีกทั้งระบบการเล่นของ ‘ปืนใหญ่’ ยืนคู่เซนเตอร์แบ็กเรียกร้องผลงานจากปราการหลังตัวกลางมากกว่าครั้งอยู่ ไบรท์ตัน ที่เล่นสามเซนเตอร์แบ็ก 

 “ผมได้สัมภาษณ์ ไวท์ ก่อนแข่ง ก็พูดจี้ไปเรื่องโอกาสขึ้นบอลจากแดนหลังจะทำได้สักกี่ครั้ง รวมถึงระบุเรื่องดังกล่าวอีกครั้งช่วงครึ่งแรกฐานะผู้ร่วมบรรยาย เพราะเห็นว่าคู่ขา คาลั่ม แชมเบอร์ส ไม่ใช่ประเภทเติมขึ้นหน้า โดยตอนนั้นเขายืนเซนเตอร์แบ็กตัวขวา” อดีตกองหลัง ลิเวอร์พูล เปิดปาก 

https://twitter.com/footballdaily/status/1426302280253517828/video/1

“ดังนั้น เบน ไวท​จึงไม่ได้โอกาสมากหนที่จะขึ้นบอลโชว์ศักยภาพ ซึ่งเราทราบว่ามันคือจุดขายของเขา” 

“จากนี้คุณก็ต้องการเห็นเขาเล่นดีเพราะค่าหัวแพง แต่ที่อยากบอกคือก่อนลงเอย อาร์เซน่อล กองหลังคนนี้ก็ตกเป็นข่าวกับ ลิเวอร์พูล เมื่อ 12-18 เดือนก่อน -ในใจก็ภาวนาว่าอย่ามาเลยเพราะเขาสูงไม่พอ หรือดีไม่พอสำหรับป้องกันลูกกลางอากาศ” 

‘ตอนเขาเล่นให้ ไบรท์ตัน มันระบบสามปราการหลังตัวกลางมีแข้งไซส์ใหญ่ขนาบทั้ง เว็บสเตอร์ หรือ ดังก์ ดังนั้นคุณสามารถขึ้นบอลเองแบบที่ถนัด ไม่ต้องกังวลเรื่องป้องกันลูกตั้งเตะและทุ่มไกล”

“แต่เมื่อคุณเป็นคู่เซนเตอร์แบ็กระบบแผงสี่กองหลังมันต้องเล่นลูกกลางอากาศได้ดี ยกกรณีของตัวผมเองก็โหม่งชนะคู่แข่งน้อยมาก เป็น ซามี ฮูเปียร์ คอยช่วยดวลโหม่งให้ ไอ้เราโขกแม่นแค่สัก 60-70%”

“กรณีของ เบน เขาไม่สูงมากดังนั้นมันจะเป็นปัญหาตามมา ทุกคนคงได้ชมเกมคืนวานแล้วคิด - แค่เล่นบอลโด่งเพื่อดวลลูกโขกกับ ไวท์ - ทำแบบนั้นคงเข้าท่าเพราะมันพิสูจน์ออกมาแล้งคืนวาน” 

“ดังนั้นที่ผมอยากแนะนำน้องมันไม่ว่าจากนี้ตัวประกบตรงหน้าคุณเป็นใคร เขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าก็ช่าง ฐานะกองหลังตัวเล็กต้องเลือกเคลื่อนไหวร่างกายให้ฉลาดกว่าแทน”

สองนัดต่อไปของ อาร์เซน่อล โจทย์ยากทั้งกลับไปเล่นทีมเหย้าพบ เชลซี ที่มี โรเมลู ลูกากู และออกไปเยือนแชมป์เก่า แมนฯ ซิตี้