ไนเจล เดอ ย็อง อดีตกองกลางทีมชาติฮอลแลนด์แนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้เอาอย่าง อาร์เซน่อล ในการจัดการกับนักเตะในทีม
ผลจากการเสมอกับ นิวคาสเซิ่ล 1-1 ในเกมพรีเมียร์ลีกล่าสุดทำให้สื่อใหญ่อย่าง เดลี่ เมล เผยสถานการณ์ภายในรั้ว "ปีศาจแดง" ว่ามีการแบ่งพรรคแบ่งพวกกันภายในสโมสร โดยเฉพาะ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่ออกอาการชัดเจนจนโดนวิจารณ์อย่างหนัก
ในมุมมองของ เดอ ย็อง ชี้ว่ายูไนเต็ดต้องการใครสักคนที่มีอำนาจเด็ดขาดในการจัดการเมื่อเกิดสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นเดียวกับที่ มิเกล อาร์เตต้า จัดการกับ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง
"ที่ อาร์เซน่อล มีดีเอ็นเอบางอย่างในโมสรและนั่นทุกคนจะได้เห็น - แม้ว่าพวกเขาจะผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในสนามก็ตาม" เดอ ย็อง กล่าวผ่านแล็ดโบ๊กส์
"พวกเขาพยายามให้โอกาสกับแข้งเยาวชนเสมอ นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของดีเอ็นเอของพวกเขา มันขยายใหญ่ขึ้นนับตั้งแต่ มิเกล อาร์เตต้า เข้ามาคุมทีม เขาคือคนที่ให้โอกาสกับผู้เล่นอายุน้อยเสมอในการก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่"
"พวกเขาไม่กลัวที่จะตัดสินใจครั้งใหญ่ในฐานะสโมสรเพื่อเอาผู้เล่นที่มีประสบการณ์ออกจากทีมเพื่อซื้อใจเด็กๆในทีม ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องให้เครดิตกับ อาร์เตต้า อย่างมาก แต่รวมถึงบอร์ดที่หนุนหลังเขาด้วย"
"อย่าเข้าใจผมผิด มีช่วงเวลาที่เขาเกือบจะตกงานเช่นกันและผลการแข่งขันก็ยอดเยี่ยมในระดับหนึ่ง แต่ทีมยึดมั่นกับเขา แม้จะมีกระแสและความกดดันเข้ามา เขาก็ยังได้รับโอกาส"
"มันเป็นคำแถลงที่ไม่ใช่แค่สื่อเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแข้งระดับซีเนียร์ด้วย มันแบบว่า 'ฟังนะ พวกนายสามารถคร่ำครวญอะไรก็ได้ แต่เราจะยึดมั่นกับผู้จัดการทีมคนนี้ ดังนั้นพวกนายยึดมั่นกับแนวทางการเล่นของเขาหรือย้ายออกไป'"
"ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง เป็นกัปตันทีมของพวกเขาและมีประสบการณ์โดยตรง ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นกัปตัน แต่ก็ฝ่าฝืนกฎและนั่นหมายความว่าเขาต้องไป นั่นคือสิ่งที่คุณไม่ได้เห็นที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"
"ก่อนหน้านี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำเช่นเดียวกันกับ แจ็ค กรีลิช และ ฟิล โฟเด้น, มันเป็นคำสั่ง มันเกี่ยวกับการทำให้ทุกคนในสโมสรเข้าใจตรงกัน พยายามทำในสิ่งให้สำเร็จกันเป็นทีม"
"นั่นคือสิ่งที่ผมไม่เห็นจากยูไนเต็ดในเวลานี้ ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเพื่อวางผู้เล่นบางคนเข้ามาแทนที่ ต้องมีใครสักคนที่ไม่กลัวกับการพูดว่า 'นี่นาย ฉันไม่อยากเห็นหน้านายอีกใน 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้, ไปซะแล้วทบทวนสิ่งต่างๆ เมื่อนายคิดว่าพร้อมจะกลับมาก็กลับมา แต่ตอนนี้ ฉันจะให้โอกาสเด็กจากทีมยู-23 ที่กระตือรือร้นและกระหาย และฉันจะให้โอกาสกับเขา'"
