สตีฟ เคอร์ เฮดโค้ช โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่ เดรย์ม่อนด์ กรีน ต่อยรุ่นน้อง จอร์แดน พูล ระหว่างเทรนนิ่งแคมป์ส่งผลกระทบต่อทีมโดยตรง ก่อนทัพสะพานทองจะร่วงตกรอบรองชนะเลิศของฝั่ง เวสเทิร์น คอนเฟอเรนซ์ จากการปราชัยต่อ แอลเอ เลเกอร์ส ตามรายงานจาก 'เอ็นบีซี สปอร์ตส์' เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 

'ไม่มีการปิดบัง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ เดรย์ม่อนด์ (กรีน) และ จอร์แดน (พูล) ในช่วงเริ่มต้นปีมีบทบาทในเรื่องนั้น' เคอร์ ยอมรับ 'มันยากที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อทีม'

กรีน ฟอร์เวิร์ดประสบการณ์ของ วอร์ริเออร์ส ต่อย พูล ระหว่างเทรนนิ่งแคมป์ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกไว้ในคลิปวิดีโอและรั่วไหลสู่สาธารณะ ซึ่งฟอร์เวิร์ดวัย 33 ปี แบนตัวเองออกจากทีมเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ โดยระบุว่าเป็นการตัดสินใจร่วมกับองค์กร และเขากลับมาลงสนามในเกมเปิดซีซั่นของ โกลเด้น สเตท 

ขณะที่ พูล วัย 23 ปี ขยายสัญญา 4 ปี มูลค่า 128 ล้านเหรียญสหรัฐหลังเหตุทะเลาะวิวาทไม่นาน แม้ว่าเขาจะทำเฉลี่ย 20.4 คะแนนและ 4.5 แอสซิสต์ในฤดูกาลนี้ดีสุดในอาชีพทั้งสองรายการก็ตาม แต่ประสิทธิภาพโดยรวมก็ลดลงไปด้วยเช่นกัน

'เมื่อใดก็ตามที่ความเชื่อใจสูญเสียไป มันจะทำให้กระบวนการยุ่งยากมากขึ้นและความเชื่อใจบางส่วนก็หายไป' เคอร์ กล่าว 'นั่นเป็นสิ่งเถรตรงสุดเท่าที่ผมสามารถบอกได้ ผมต้องกลับไปที่สิ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จจริงๆ ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ไว้วางใจได้จริงๆ และกลุ่มที่พึ่งพากันและกัน และทำให้กันและกันดีขึ้น'

ขณะที่ กรีน ยอมรับว่าการทะเลาะวิวาทบั่นทอนความสามารถในการเป็นผู้นำในล็อคเกอร์รูมตามปกติของเขา และด้วยเหตุดังกล่าวทำให้เขาไม่สามารถช่วยเหลือ พูล ได้เหมือนที่่ผ่านมา เนื่องจากความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้รับผลกระทบอย่างคาดไม่ถึง

พูล กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ กรีน ว่า 'ผมไม่มีคำตอบสำหรับคุณ นอกจากนั้น เราแค่อยู่ในสนามและเพื่อนร่วมทีม และเราออกไปเพื่อพยายามเอาชนะเกม'