โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กำลังปรับโครงสร้างการดำเนินด้านกีฬาของสโมสร หลังประธานทีม ไรน์โฮลด์ ลูนอฟ ได้ตัดสินใจเพิ่มตำแหน่งใหม่ในฝ่ายบริหารให้ ลาร์ส ริคเค่น วัย 47 ปีก้าวขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายจัดการกีฬาที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ตามรายงานจากบิลด์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ริคเค่น เติบโตจากทีมเยาวชนของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก่อนก้าวขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ในช่วงปี 1993-2007 จนกระทั่งยุติอาชีพในปี 2009 เขากลับมาทำงานกับ เบเฟาเบ เมื่อปี 2021 ในฐานะผู้อำนวยการอะคาเดมี่ ก่อนสโมสรจะผลักดันขึ้นมาทำงานตำแหน่งใหม่ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายจัดการกีฬาที่จะมีหน้าที่รับผิดชอบกิจกรรมทางกีฬาของทีมเสือเหลือง โดยลงนามในข้อตกลงจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2027

การดำเนินการนี้เกิดขึ้นหลังจากการขยายสัญญากับกรรมการผู้จัดการ โธมัส เทรสส์ ที่ดูแลฝ่ายการเงิน, องค์กร, กฎหมายและนักลงทุน รวมถึง คาร์สเท่น คราเมอร์ ที่ดูแลฝ่ายขายและตลาด, การดำเนินงานสากลและฝ่ายดิจิตอล ไปจนถึงปี 2027 เช่นเดียวกัน ก่อนที่ ฮันส์-โยอาคิม วัตซ์เค่อ จะก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอหลังสิ้นสุดสัญญาในช่วงซัมเมอร์ปี 2025

'เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ ลาร์ส ริคเค่น เข้ามารับผิดชอบด้านกีฬาภายในทีมบริหาร เขามีบทบาทสำคัญในการทำให้อะคาเดมี่ของ ดอร์ทมุนด์ กลายเป็นสถาบันเยาวชนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเยอรมนีตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา'

'เบเฟาเบ เฉลิมฉลองแชมป์ต่างๆเป็นประจำด้วยพรสวรรค์ของผู้เล่นอายุน้อย หลายคนได้ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ เบเฟาเบ ผู้เล่นอายุน้อยที่มีพรสวรรค์ของเราหลายคนได้ไปเล่นในลีกอาชีพของยุโรปต่างๆ และเพิ่มมูลค่าทางการตลาดของพวกเขา'

'ความเชี่ยวชาญของ ลาร์ส ริคเค่น เครือข่ายขนาดใหญ่ของเขา และตัวตนอันยิ่งใหญ่ของเขากับสโมสรบ้านเกิดของเขา ซึ่งเขายังได้เฉลิมฉลองความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในฐานะนักเตะจะช่วยยกระดับทีมบริหาร' ลูนอฟ กล่าว

ริคเค่น จะเข้ามาดูแลแผนกกีฬาตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ในขณะที่ เซบาสเตียน เคห์ล ยังคงทำงานฐานะผู้อำนวยการกีฬาต่อไป และ ริคเค่น จะเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับการขยายสัญญาของ เคห์ล ในช่วงซัมเมอร์นี้ ส่วน สเวน มิสลินสตัด วัย 52 ปีจะเข้ามาทำงานฐานะผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้เช่นกัน เขาจะโฟกัสไปที่การวางแผนทีมและจะรายงานตรงต่อ ริคเค่น และ เคห์ล 

'ผมขอบคุณคณะกรรมการบริหารและฝ่ายบริหารสำหรับความไว้วางใจในการแต่งตั้งผมเป็นผู้อำนวยการฝ่ายจัดการกีฬา ผมเชื่อมั่นว่าด้วยความแข็งแกร่งอันน่าเหลือเชื่อของสโมสรแห่งนี้และความหลงใหลของสมาชิกในทีมของเราที่มีแรงบันดาลใจมากมายของเรา เราจะบรรลุความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ร่วมกันและนำ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปสู่อนาคตที่ประสบความสำเร็จ' ริคเค่น กล่าว