ที่ คัมป์ นู เกมนี้เจ้าบุญทุ่มวาง ลีโอเนล เมสซี่, อุสมาน เดมเบเล่ และ ฟิลิปเป่ คูตินโญ่ ลงสนามล่าตาข่าย

ทางด้าน เรือดำน้ำสีเหลือง ใช้งาน การ์ลอส บักก้า ลงเป็นหน้าเป้า โดยมี ซามู กาสตีเยโฆ่, ปาโบล ฟอร์เนลส์ และ เดนีส เชอรีเชฟ ทำเกม

บาร์ซ่า บุกเป็นพายุเลยและแค่ 11 นาทีก็ออกนำเมื่อทาง อุสมาน เดมเบเล่ อาสัยความเร็วเลี้ยงจี้มาเองก่อนแต่งมาปั่นด้วยซ้าย เซร์คิโอ อาเซนโฆ่ ทำได้แค่ปัดออกมาเลยโดน ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ซ้ำเข้าไป 1-0

เท่านั้นไม่พอนาทีที่ 16 เจ้าถิ่นนำห่าง 2-0 ในจังหวะที่ อันเดรส อิเนียสต้า แทงมาให้ ลูก้าส์ ดีญ หลุดมาทางซ้ายแล้วจิ้มเข้าในถวายพานให้ เปาลินโญ่ กดไม่พลาด

นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ยักษ์ใหญ่จากกาตาลัน นำห่างไปไกล 3-0 เมื่อ ลีโอเนล เมสซี่ ไหลมาให้ อันเดรส อิเนียสต้า เบิ้ลคืนให้หอกอาร์เจนไตน์หลุดไปวอลเล่ย์เข้าเสาไกล

บียาร์เรอัล แก้คืนมาได้ในนาที 54 การ์ลอส บักก้า ทำเกมมาทางซ้ายก่อนพลิกแล้วไกลมาที่ ปาโบล ฟอร์นาลส์ กดด้วยขวาแฉลบ นิโกล่า ซานโซเน่ เพื่อนร่วมทีมเข้าประตูไป 1-3

จากนั้นในนาทีที่ 73 ลีโอเนล เมสซี่ พลาดโอกาสบวกสกอร์เพิ่มให้กับทีมและตนเองหลังจากประตูที่ทำได้โดนจับว่าล้ำหน้าไปก่อน

ก่อนหมดเวลา 3 นาที อีวาน ราคีติช อาศัยความขยันตัดบอลจากแดนกลางก่อนจะกระชากขึ้นมาทางขวาแล้วเลาะเส้นหลังจ่ายให้ อุสมาน เดมเบเล่ หวดเข้าไป ก่อนที่หัวหอกดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสจะมาทำประตูปิดกล่องได้ในนาทีสุดท้ายอีกลูกจกจังหวะสวนกลับ

จบเกม บาร์เซโลน่า เปิดบ้านเอาชนะ บียาร์เรอัล 5-1 เก็บสามคะแนนและยืดสถิติไม่แพ้ใครในลีกเป็นเกมที่ 42