"ยูนิส" ขอแจ้งเกิดตามรอย"นาบิล"พี่ชาย

เส้นทางการต่อสู้ของ ยูนิส แทบจะถอดแบบมาจากพี่ชายอย่าง นาบิล โดยเริ่มต้นจากการฝึกเทควันโดและคาราเต้ มาตั้งแต่อายุเพียง 4 ขวบ จนสามารถคว้าสายสีดำเทควันโดและสายสีม่วงคาราเต้มาครอง ก่อนที่ 3 ปีต่อมา คุณพ่อจะพาทั้ง 2 พี่น้องเข้าสู่โลกของมวยไทย ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้พวกเขาตกหลุมรักและตัดสินใจอุทิศตัวให้กับการฝึกซ้อมมวยไทยเพียงอย่างเดียวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

หลังฝึกซ้อมมาประมาณ 1 ปี ยูนิส ได้โอกาสขึ้นชกไฟต์แรกในวัยเพียง 8 ขวบ ที่พัทยา และสามารถเอาชนะคะแนนคู่ชกรุ่นพี่ไปได้ หลังจากนั้น ยูนิส มุ่งมั่นตั้งใจฝึกซ้อมมวยไทยที่ค่ายมวยเพชรรุ่งเรือง และขึ้นชกเก็บประสบการณ์ตามสนามท้องถิ่นในเมืองพัทยาควบคู่ไปกับการเรียนหนังสืออย่างต่อเนื่อง จนสามารถพัฒนาฝีมือขึ้นอย่างรวดเร็ว

หลังสั่งสมกระดูกมวยในเมืองพัทยามามากกว่า 30 ไฟต์ ในที่สุด ยูนิส ที่ในขณะนั้นอายุ 13 ปี ได้โอกาสเข้ามาชกในเมืองกรุง ตามรอยพี่ชาย “นาบิล” ที่เวทีราชดำเนิน และสามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่น เก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน “ยูนิส” มีสถิติการแข่งขันตลอดอาชีพน่าทึ่ง โดยเก็บชัยชนะไปได้มากถึง 45 ครั้ง จากการขึ้นชกทั้งหมด 53 ไฟต์

ผลงานที่สร้างชื่อให้ ยูนิส ได้มากที่สุดคือการขึ้นแท่นเป็นนักชกอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่สามารถคว้าเข็มขัดแชมป์โลก WBC มวยไทย รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต มาครองในวัยเพียง 16 ปีเท่านั้น จากการเอาชนะน็อก ก้องศักดิ์เล็ก ศิษย์ก้องสยาม ในยกที่ 2 ณ เวทีราชดำเนิน เมื่อเดือน เม.ย. 67

ในขณะที่ ยูนิส กำลังก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักมวยไทยดาวรุ่งที่แฟนหมัดมวยทั่วประเทศจับตามอง พี่ชาย นาบิล ที่เข้ามาชกในเวที ONE ก่อนหน้านี้ ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่จากการคว้าแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต เฉพาะกาล มาครอง ซึ่งได้กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ผลักดันให้ ยูนิส ตัดสินใจเดินตามรอยพี่ชายมาพิสูจน์ฝีมือบนเวที ONE ลุมพินี ในครั้งนี้

บททดสอบด่านแรกบนเส้นทางระดับโลกของ ยูนิส จะต้องพบกับ หลิว จุนเชา นักชกจีน เจ้าของสถิติชนะ 15 ครั้งจาก 20 ไฟต์ตลอดอาชีพ ที่ไฟต์นี้จะขึ้นชกในกติกามวยไทยเป็นครั้งแรกบนสังเวียนนี้ หลังเปิดตัวไม่สวยด้วยการพ่าย อากิโตะ นากาชิมะ จากญี่ปุ่น ไปด้วยคะแนนไม่เอกฉันท์ ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ในศึก ONE ลุมพินี 108 เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา