"คัมภีร์เทวดา" เสริมแกร่งปะทะ "เอลบรุส"

คัมภีร์เทวดา สิทธิกุล แชมป์ Road To ONE Thailand ซีซัน 3 วัย 22 ปี จากสุรินทร์ หลังเปิดตัวไฟต์แรกไม่ปังดั่งใจ ตั้งเป้าจะปราบ เอลบรุส ออสมานอฟ นักชกรัสเซียเชิง วัย 24 ปี ที่ข้ามสายมาชกมวยไทยเป็นครั้งแรก ในกติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.)

ในศึก ONE ลุมพินี 109 เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา คัมภีร์เทวดา เปิดตัวไม่สวยถูก อาเลสสิโอ มาลาเทสตา นักชกจากอิตาลี น็อกยกสอง มาไฟต์นี้หวังแก้ตัวให้ได้ โดยกล่าวว่า

“ผมตื่นเต้นมากที่ได้ขึ้นชกไฟต์แรกในฐานะนักกีฬา ONE ในช่วงแรกที่ได้สู้กับ อาเลสซิโอ ผมมั่นใจว่าทำได้ดี แต่ยกสองผมประมาทไปหน่อย โดนหมัดเข้าไปจนเมา และถูกรัวอาวุธใส่จนแพ้น็อก ความพ่ายแพ้ในไฟต์นั้นทำให้ผมรู้ว่าตัวเองยังมีข้อผิดพลาดหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องการป้องกันตัวและความแข็งแกร่งที่ยังไม่มากพอ”

“ผมได้เรียนรู้ว่า ถ้าจะชนะนักชกต่างชาติให้ได้ คงมีแค่อาวุธมวยไทยไม่ได้ ต้องแกร่งและอึดให้ได้เท่าเขาหรือมากกว่าเขา ครั้งนี้ผมจึงเน้นเสริมทั้งความแข็งแกร่งและความเร็วเป็นพิเศษ เพื่อพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในไฟต์นี้”

โดย คัมภีร์เทวดา ต้องเผชิญหน้ากับ เอลบรุส นักชกรัสเซียเจ้าของผลงาน ชนะ 8 จาก 9 ไฟต์ในระดับอาชีพ โดย 6 ไฟต์ในนั้นเป็นชัยชนะภายใต้กติกาคิกบ็อกซิ่งในศึก ONE ลุมพินี

เอลบรุส เพิ่งพ่ายเป็นครั้งแรกในอาชีพ ด้วยการแพ้คะแนนเอกฉันท์ให้ ยูกิ โยซะ ซูเปอร์สตาร์คิกบ็อกซิ่งจากญี่ปุ่น ในศึก ONE ลุมพินี 109 และครั้งนี้ เขาจะเผชิญความท้าทายครั้งใหม่ ด้วยการข้ามสายมาชกมวยไทยเป็นครั้งแรก โดยหวังปราบนักชกไทยเป็นรายที่ 3 ในรายการนี้

 คัมภีร์เทวดา รู้ดีว่างานนี้ไม่ง่ายแน่นอน แต่เจ้าตัวเตรียมความพร้อมและเสริมความแกร่งมาอย่างเต็มที่ พร้อมรับมือกับความร้อนแรงของคู่ชกแล้ว

“เอลบรุส เป็นมวยที่ทั้งหนักและเร็ว ตามสไตล์คิกบ็อกซิ่ง ถือว่าเป็นคู่ชกที่ทั้งยากและแปลกใหม่สำหรับผม ถือว่าหนักกว่าตอนเจอกับ อาเลสซิโอ ด้วยซ้ำ เขามีอาวุธแปลก ๆ อย่างหมัดกลับหลังกับลูกเตะกลับหลังที่เคยใช้ชนะนักมวยไทยมาแล้วด้วย”

“จุดอ่อนที่ผมเห็นจากไฟต์ที่เขาแพ้ ยูกิ โยซะ คือเขาโดนเตะเจาะยางหลายครั้งจนออกอาการช็อตให้เห็น ไฟต์นี้ ผมจึงศึกษาว่าเขาแพ้อาวุธอะไร นอกจากนั้นก็มีเสริมลูกถีบและเพิ่มอาวุธอื่น ๆ เข้าไปด้วย ผมต้องพยายามหลีกเลี่ยงการออกอาวุธเป็นชุดของเขาให้ดีที่สุด และจะทำให้เขาเห็นว่า นักมวยไทยไม่ธรรมดาอย่างที่คิด”

“ไฟต์นี้ ผมอยากแสดงให้ทุกคนเห็นว่าผมรับมือกับอาวุธได้ดีขึ้น มีพัฒนาการที่ชัดเจน และสามารถทำผลงานได้ไม่แพ้ใคร อยากแสดงฝีมือให้เต็มที่ เพื่อพิสูจน์ว่าผมคู่ควรกับการยืนอยู่บนเวทีนี้”

“ผมคาดหวังกับไฟต์นี้มากครับ จะคว้าชัยชนะให้ได้ เพื่อยกระดับตัวเองไปสู่สังเวียนใหญ่ระดับโลก และจะไม่ทำให้เสียชื่อแชมป์ Road To ONE Thailand แน่นอน”