"เสือคิม" เผยยอมเจ็บเพื่อพลิกเกมคว้าชัย

เสือคิม สจ.โต้งปราจีน เปิดใจเล่าถึงความดุเดือด ในไฟต์ที่พลิกสถานการณ์จากตกเป็นรองในยกแรก กลับมาเปิดหน้าแลกเอาชนะคะแนน ซาเฟอร์ ซายิก คู่ชกจากตุรกี ไปได้แบบสุดระทึกในศึก ONE Fight Night 34
ไฟต์นี้ถือเป็นการเปิดตัวบนเวที ONE (ใหญ่) ครั้งแรกของ เสือคิม โดยถูกประกบให้มาดวลกับ ซาเฟอร์ ที่หวังบุกมาถล่มนักชกไทยถึงถิ่น เพื่อปลดล็อกเก็บแต้มชัยแรกในรายการนี้
เกมการชกไฟต์นี้เปิดฉากอย่างดุเดือด เมื่อ ซาเฟอร์ อาศัยความได้เปรียบทั้งด้านรูปร่างและความแม่นยำในการออกหมัด ไล่บุกเล่นงาน เสือคิม อย่างหนักจนเกิดแผลแตกบริเวณใต้ตาซ้าย และทำให้ภาพรวมในยกแรกของ เสือคิม ดูตกเป็นรองอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ใน 2 ยกที่เหลือ เสือคิม ซึ่งไม่มีอะไรจะเสีย ได้ตัดสินใจปรับแผนออกมาสู้ โดยหันมาเปิดหน้าบู๊แบบลืมตาย เพื่อแลกกับการเข้าไปคลุกวงในตีเข่าและฟันศอกตามสไตล์ถนัด ทำเอา ซาเฟอร์ ถึงกับกางตำรารับมือไม่ทัน และออกอาการท้อให้เห็นในยกสุดท้าย จนสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาแซงชนะไปด้วยคะแนนเอกฉันท์แบบได้ใจแฟนมวยทั่วประเทศ
หลังจบเกม เสือคิม ที่สามารถเก็บชัยชนะติดต่อกันเป็นไฟต์ที่ 5 ได้เปิดใจเล่าถึงเกมการชกเดือดระอุบนเวที ซึ่งแม้จะเจ็บปวดแทบขาดใจ แต่สุดท้ายก็แลกมาด้วยชัยชนะอันคุ้มค่าและสามารถสร้างความประทับใจให้กับแฟนมวยทั่วโลกได้อย่างที่เคยลั่นวาจาเอาไว้ก่อนหน้านี้
“ไฟต์นี้ผมวางแผนจะเดินลุยใส่ตั้งแต่ยกแรกเลยครับ แต่พอขึ้นเวทีจริง ซาเฟอร์เขาตัวใหญ่ แขนขายาวมาก ผมเข้าไม่ถึงตัวเลย แถมโดนหมัดสวนกลับมาหลายดอกเต็ม ๆ หลังจบยกแรก ผมรู้ทันทีว่าถ้ายังสู้แบบเดิมต่อไป มีแต่แพ้แน่นอน เลยตัดสินใจปรับแผนใหม่ หันมาเดินบุกเร็วขึ้น ต้องยอมเจ็บเพื่อเข้าไปลุยให้ถึงตัว ตอนนั้นผมเลือกเปิดหน้าแลกหมัด เพราะมองว่าเขาเริ่มหมดแรงแล้ว ผมเลยปล่อยให้เขาออกอาวุธใส่มาเยอะ ๆ เพื่อให้เขาเหนื่อย ถึงผมจะเจ็บ แต่ก็พยายามกัดฟันทน เพราะคิดไว้แล้วว่า ถ้าทำให้เขาอ่อนแรงลงได้เมื่อไหร่ ผมจะมีโอกาสบุกเข้าไปเล่นงานเขาคืน ต้องยอมเสี่ยงวัดใจกันไป และสุดท้ายผมก็พลิกสถานการณ์กลับมาคว้าชัยได้สำเร็จครับ”
“ผมรู้สึกภูมิใจมากกับชัยชนะในครั้งนี้ เพราะไม่เพียงแต่เป็นชัยชนะครั้งแรกของผมบนเวทีระดับโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นชัยชนะที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับแฟน ๆ ได้ด้วย ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ผมตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้น
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ตอนที่ผมเพิ่งกลับมาชกใหม่ ๆ หากเจออาวุธหนักขนาดนี้ ผมอาจจะโดนน็อกไปแล้ว แต่ไฟต์นี้ผมได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ผมสามารถยืนระยะและรับมือกับอาวุธของคู่ต่อสู้ได้อย่างแข็งแกร่งครับ”
หลังจากได้ลิ้มลองการรับอาวุธของคู่ชกในรุ่นแบนตัมเวตมาอย่างเต็มอิ่ม ทำให้ เสือคิม ยอมรับว่ามองเห็นจุดบกพร่องที่ต้องกลับไปแก้ไขอย่างชัดเจน โดยยืนยันที่จะยังคงปักหลักชกในรุ่นนี้ต่อไป พร้อมให้คำมั่นว่าไฟต์หน้า แฟนมวยทั่วประเทศจะไม่ต้องลุ้นกันแบบหืดขึ้นคออีกแน่นอน