ขุนพลน้อย ไม่หวั่นชนแชมป์ Road To ONE เวียดนาม

ขุนพลน้อย ส.สมหมาย นักชกวัย 32 ปี จากนครศรีธรรมราช มั่นใจปราบ วาลิด ซัคคราจี นักสู้ป้ายแดงจากโมร็อกโก ดีกรีแชมป์ Road To ONE เวียดนาม มาเปิดตัวครั้งแรก โดยทั้งคู่จะดวลกันภายใต้กติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ในฐานะคู่เอกภาคอินเตอร์ของศึก ONE ลุมพินี 119 วันศุกร์ที่ 8 ส.ค.นี้
ขุนพลน้อย กำลังอยู่ในช่วงมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ล่าสุดไล่ทุบเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ โม เทต ออง จากเมียนมา ในศึก ONE ลุมพินี 112 เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพิ่มสถิติสุดหรูในรายการเป็นชนะ 6 จาก 8 ไฟต์ และยังครองสถิติไม่เคยแพ้คู่ชกชาวต่างชาติคนใดในรายการนี้
ขุนพลน้อย วาดภาพอนาคตไว้ว่าจะได้เดินตามรอยพี่ชาย เสกสรร อ.ขวัญเมือง และก้าวขึ้นไปโชว์ฝีมือบนสังเวียนระดับโลก โดยเจ้าตัวทุ่มเทแรงกายแรงใจพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นในทุก ๆ ไฟต์ ด้วยการศึกษาคู่ชกอย่างละเอียดในทุกแง่มุม และปรับปรุงแก้ไขจุดบกพร่องของตัวเองในไฟต์ที่ผ่านมา จนกระทั่งสามารถทำผลงานได้ดีต่อเนื่องถึงปัจจุบัน
ไม่ว่าจะเจอคู่ชกไทยหรือต่างชาติ ผมยึดเทคนิคเดิมทุกไฟต์คือ ยกแรกจะเน้นดูเชิง ศึกษาจังหวะการออกอาวุธของอีกฝ่ายก่อน จากนั้นถึงนำข้อมูลที่ได้มาปรับใช้เพื่อแก้เกมสู้ต่อในยกสองและสาม
ส่วนที่ผมยังคงปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องคือ เรื่องความเร็วและความแข็งแกร่ง เทรนเนอร์ก็ช่วยเสริมเทคนิคการออกอาวุธเป็นชุดและหลากหลายมากขึ้น เพื่อให้ผมมีอาวุธครบมือไว้ใช้บนเวที
ตอนนี้ผมผ่านศึก ONE ลุมพินี มาแล้ว 8 ไฟต์ ภูมิใจมากครับที่ก้าวมาถึงตรงนี้ได้ แต่ผมยังไม่หยุดพัฒนา เป้าหมายคือโชว์ฟอร์มให้ดีที่สุดในทุกครั้งที่ขึ้นเวที
ไฟต์นี้ ขุนพลน้อย ยังคงปักหลักซ้อมเข้มอยู่ที่ค่ายมวย ส.เสกสรร ของตนเองที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยได้รับคำแนะนำจากทั้งคุณพ่อที่เป็นอดีตนักมวย และพี่ชาย เสกสรร ช่วยเสริมเทคนิคและปรับสไตล์การชกให้ดีขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมเต็มกำลัง ก่อนเผชิญหน้ากับหน้าใหม่อันตรายอย่าง วาลิด ที่หวังมาเปิดตัวแบบเซอร์ไพรส์คนดู
สำหรับ วาลิด นักสู้เจ้าของฉายา เดอะ เรด ไลออน (สิงห์โตแดง) เป็นอีกหนึ่งนักกีฬาต่างชาติฝีมือไม่ธรรมดาจากทีมเมห์ดี ซาทูต แห่งเมืองพัทยา โดยมาพร้อมกับดีกรีแชมป์จากเวทีค้นหาดาวรุ่ง Road To ONE เวียดนาม และถือครองสัญญานักกีฬา ONE อยู่ด้วย
อย่างไรก็ตาม ขุนพลน้อย ได้ตอกย้ำอุดมการณ์หนักแน่นว่า ไม่ว่าคู่ชกที่ยืนอยู่ตรงหน้าจะเป็นใคร ตนก็พร้อมสู้แบบสุดฝีมือตามสไตล์ถนัด และตั้งใจให้รูปเกมออกมาสนุกตื่นเต้นประทับใจแฟนมวย โดยเจ้าตัวมั่นใจว่าไม่มีใครหยุดเขาได้ในตอนนี้ และจะเก็บชัยต่อเนื่องเป็นไฟต์ที่ 5 ให้ได้
ผมศึกษาคลิปของ วาลิด มาแล้ว เขาเป็นมวยที่สเตปขาดี และรูปร่างสูงยาวกว่า แต่จุดอ่อนที่เห็นชัดคือช่วงปลายเกมมักมีแผ่วให้เห็นบ่อย ๆ แม้เขาจะเป็นแชมป์ Road To ONE เวียดนาม แต่ผมไม่รู้สึกกดดันนะ กลับรู้สึกภูมิใจมากกว่าที่ได้เจอกับคู่ชกระดับนี้ เพราะมันคือโอกาสดีในการพิสูจน์ฝีมือตัวเองครับ
ไฟต์นี้ผมจะเปิดเกมใส่ตั้งแต่ต้น เพราะรู้ดีว่า วาลิด เป็นมวยต่างชาติที่ปล่อยอาวุธเร็ว ถ้าถอยหรือยืนห่างมีสิทธิ์พลาดง่าย ผมต้องเข้าให้ถึงตัวตลอด และถ้าเจอจังหวะ ผมพร้อมปิดเกมทันที อยากกลับมาเอาชนะน็อกให้ได้อีกครั้งครับ
นี่เป็นไฟต์สำคัญสำหรับผมมาก ผมตั้งเป้าเก็บชัยชนะ 5 ไฟต์ติดให้ได้ ถึงจะมั่นใจในพละกำลังและสภาพจิตใจตอนนี้ แต่ผมจะไม่ประมาทเด็ดขาดครับ