นาบิล อานาน แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ร่วมด้วยน้องชายแท้ ๆ ยูนิส อานาน และพี่ชายคนสนิท ปตท. อภิชาติฟาร์ม 3 นักสู้แห่งค่ายมวยดังของโค้ช เมห์ดี ซาทูต โชว์ความพร้อมล่าสุดผ่านกิจกรรมเช็กฟิต (Open Workout) ก่อนจูงมือกันออกล่าชัยชนะในศึกใหญ่ ONE ลุมพินี 126 ในวันศุกร์ที่ 26 ก.ย.นี้
ศึก ONE ลุมพินี 126 ครั้งนี้ ค่ายมวยดังจากเมืองพัทยา อยู่ในบรรยากาศคึกคักสุดขีด เมื่อ 3 ดาวเด่นของค่ายมีคิวขึ้นชกพร้อมกันถึง 3 คน ได้แก่ นาบิล ที่ขอเปิดประสบการณ์บู๊ในกติกาคิกบ็อกซิ่งครั้งแรกใน ONE โดยขึ้นเป็นคู่เอกพบกับ อิเลียส เอ็นนาฮาชิ อดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) และผู้ท้าชิงอันดับ 2 ของแรงกิง ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต วัย 29 ปี ตัวแทนจากเนเธอร์แลนด์-โมร็อกโก
ขณะที่ ยูนิส กลับมาลุ้นเก็บชัยต่อเนื่อง วัดฝีมือกับ ฮุน ฮวาง ฟี นักชกดีกรีแชมป์ Road To ONE เวียดนาม ในกติกามวยไทย รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.) ส่วน ปตท. จะเปิดศึกรีแมตช์กับ อาเลสสิโอ มาลาเทสตา จากอิตาลี คู่ปรับเก่าที่ขอกลับมาล้างแค้น ในกติกามวยไทย 147 ป.
สำหรับ นาบิล แม้จะลงแข่งในกติกาคิบ็อกซิ่งครั้งแรกใน ONE แต่ใช่ว่าเขาจะมีประสบการณ์เป็นศูนย์ เพราะเคยเป็นแชมป์โลก WKN คิกบ็อกซิ่ง ระดับนานาชาติ มาก่อน โดยเจ้าตัวมั่นใจว่าไม่มีปัญหาในการปรับตัวสู้คิกบ็อกซิ่ง แม้ต้องเจองานหนักกับ อิเลียส ผู้ครองสถิติไร้พ่าย 5 ไฟต์ในรายการนี้
“ผมเตรียมตัวมาอย่างเต็มที่เหมือนเช่นเคย หลังจบไฟต์ล่าสุด ผมหยุดพักยาวเพื่อฟื้นฟูร่างกายจากการชกต่อเนื่องหลายไฟต์ สำหรับไฟต์นี้ ผมมีเวลาซ้อมเกือบ 3 เดือนเต็มครับ
การซ้อมคิกบ็อกซิ่งไม่ต่างจากมวยไทยมากนัก แต่ผมปรับแผนการซ้อมในทุกไฟต์ เน้นพัฒนาฟุตเวิร์กและความเร็ว ซ้อมในสไตล์ของนักชกตัวเล็กทั่วไป ซึ่งช่วยให้ผมสามารถทำสิ่งที่นักสู้ตัวสูงคนอื่นทำได้ยากครับ”
“จุดเด่นของ อิเลียส คือฟุตเวิร์กที่รวดเร็ว เข้าออกเร็วเดินเร็ว แต่ผมไม่ได้กังวลอะไรมาก เพราะนี่เป็นเรื่องปกติ ทุกคนมีจุดแข็งของตัวเอง สิ่งสำคัญคือการดึงจุดแข็งของตัวเองออกมาใช้ และให้ฝ่ายตรงข้ามต้องหาทางแก้
ผมยังไม่ได้ตัดสินใจชัดเจนว่าจะใช้แผนแบบไหนในไฟต์นี้ ต้องรอดูอีกครั้งบนเวที เพราะเมื่อถึงเวลาจริง สิ่งที่เกิดขึ้นอาจไม่ตรงกับที่ซ้อมมา ผมต้องพร้อมปรับและแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าครับ”
ด้าน ยูนิส มาพร้อมความฝันอยากตามรอยพี่ชาย นาบิล ไปสู่ระดับโลก เปิดตัวอย่างสวยงามในศึก ONE ลุมพินี 114 เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ด้วยการเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ หลิว จุนเชา จากจีน แบบดุเดือด กลับมารอบนี้ ยูนิส เตรียมตัวมาดี ขอปราบคู่ต่อสู้เจ้าของสัญญา ONE อย่าง ฮุน ฮวาง ฟี เพื่อต่อยอดสู่อนาคตที่สดใสต่อไป
“ไฟต์นี้ผมเตรียมตัวมาดีมาก ดีกว่าไฟต์ล่าสุดแน่นอน ไฟต์ก่อนซ้อมเต็มที่ 100% แต่สำหรับไฟต์นี้ ผมซ้อมเกินร้อยเลยครับ ส่วนการชกนวมเล็กผมว่าเจ็บต่างจากนวมใหญ่ ชกเสร็จแล้วปวดหัว แต่สำหรับไฟต์ต่อไป ผมรู้แล้วว่าต้องเจออะไร และเตรียมรับมือได้แน่นอน
ฮุน ฮวาง ฟี เป็นนักสู้สไตล์ปล่อยหมัดเตะขา แต่เคลื่อนไหวช้าและตัวเล็กกว่าผม ผมมั่นใจว่าสู้ได้ครับ สไตล์ของเขาน่าจะคล้ายกับคู่ชกในไฟต์แรก แต่รู้สึกว่าเขาจะช้ากว่าครับ”
ส่วน ปตท. ได้เปิดใจถึงเป้าหมายในไฟต์นี้ว่า อยากแก้ตัวจากความผิดหวังในจากครั้งก่อนที่แพ้คะแนนไม่เอกฉันท์ เอเลียส อับเดลาลี จากฝรั่งเศส ในศึก ONE ลุมพินี 114 โดยครั้งนี้ เจ้าตัวตัดสินใจลดน้ำหนักลงมาชกในพิกัด 147 ป. หวังกลับคืนสู่ฟอร์มเก่งและย้ำชัยเหนือคู่ปรับเก่าอย่าง อาเลสสิโอ ให้ได้
“จากไฟต์แรกที่แพ้ ผมเห็นข้อบกพร่องของตัวเองชัดเจน คือชอบเปิดหน้าโดยไม่ป้องกันอาวุธ ทีมเทรนเนอร์จึงช่วยปรับระบบป้องกันให้ดีขึ้น เพิ่มสเตปหลบเร็วขึ้น และเสริมการซ้อมทุกอย่างให้มากขึ้นกว่าเดิม
ผมดีใจที่ได้เจอกับ อาเลสสิโอ อีกครั้ง เพราะครั้งก่อนที่สู้กันมีประเด็นดรามาเล็กน้อย ทำให้ยังค้างคาใจอยู่ อยากตัดสินจบให้ชัดเจนในไฟต์นี้ ให้รู้กันไปเลยว่าใครคู่ควรเป็นผู้ชนะ
ไฟต์นี้ผมรู้สึกว่าแข็งแรงและสามารถออกอาวุธได้มากกว่า ในครั้งแรกที่เจอกัน อาเลสสิโอ มีแผ่วปลายให้เห็น และผมแข็งแรงกว่าก็เลยชนะไป ซึ่งครั้งนี้ผมมองว่าน่าจะเป็นฝ่ายชนะได้อีกครั้งครับ”
