"สามเอ" ขอโชว์ "แข้งซ้ายไฟลามทุ่ง" สยบเมียนมา

นับตั้งแต่เข้ามาชก ONE เมื่อปี 2561 สามเอ เดินหน้ากวาดความสำเร็จมาครองมากมาย นอกจากแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ที่เคยคว้ามาแล้ว เขายังครองตำแหน่งราชัน 2 กติกา (มวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง) ของรุ่นสตรอว์เวตด้วย อย่างไรก็ตาม ด้วยวัยที่มากขึ้น ทำให้ สามเอ ต้องพยายามพิสูจน์ฝีมือเพื่อแสดงให้เห็นว่ายังยืนหยัดในระดับโลกได้ไม่สนเรื่องตัวเลขอายุ

สองไฟต์ที่ผ่านมา นักสู้เจ้าของฉายา ซ้ายไฟลามทุ่ง สลับไปโชว์ฝีมือในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ล่าสุดเขาแพ้คะแนนเอกฉันท์ โจนาธาน ดิ เบลลา ตัวแทนจากอิตาลี-แคนาดา ในศึก ONE 172 เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา พลาดโอกาสหยิบเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต เฉพาะกาล อย่างน่าเสียดาย ซึ่งความผิดหวังครั้งนี้ ทำให้เขาเจ็บปวดถึงขั้นต้องหลั่งน้ำตา

“ผมพอใจกับสภาพร่างกายของตัวเอง แต่ผลการแข่งขันไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจ จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่ยกแรก เมื่อพลาดโดน ดิ เบลลา เตะเข้าที่ขาจนมีอาการเจ็บ ทำให้แผนที่วางไว้ต้องปรับเปลี่ยนทั้งหมด

ผมรู้สึกเสียดายและเสียใจที่พลาดโอกาสคว้าเข็มขัดแชมป์โลกอีกครั้ง สุดท้ายก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เพราะครั้งนั้นผมซ้อมหนักและคาดหวังไว้สูงมาก

ถึงอย่างนั้น ผมยังพอใจกับผลงานการชกคิกบ็อกซิ่ง 2 ไฟต์ที่ผ่านมา และเชื่อว่ายังสามารถพัฒนาฝีมือในกติกานี้ได้อีก โดยเฉพาะการแก้ไขเรื่องเกมรับและการออกอาวุธให้มากขึ้น ต่อจากนี้ผมพร้อมลุยทั้งในมวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง เพราะตั้งเป้าหมายอยากก้าวไปให้ถึงจุดสูงสุดในทั้งสองกติกาครับ”

กลับมารอบนี้ สามเอ มุ่งมั่นชัดเจนว่าอยากพิสูจน์ฝีมือในกติกามวยไทยอีกครั้ง หลังการชกนวมเล็กหนล่าสุดใน ONE ต้องย้อนไปในศึก ONE ลุมพินี 81 เมื่อเดือน ก.ย. 67 ซึ่งเขากดหมัดซ้ายคมกริบน็อกยกแรก อัคราม ฮามิดี จากแอลจีเรีย เพิ่มสถิติชนะในมวยไทยเป็น 7 ไฟต์บนสังเวียนแห่งนี้

“ไฟต์นี้เป็นผมที่เอ่ยปากเองว่าอยากชกมวยไทย เพราะรู้สึกคิดถึงการต่อสู้ในกติกานี้ หลังจากห่างหายไปนาน และพร้อมพิสูจน์ว่ายังสู้ไหวทั้งสองกติกา มีไฟลุยเต็มที่แน่นอน

การซ้อมมวยไทยต้องเน้นเพิ่มทั้งความเร็วและการป้องกันตัวมากขึ้น เพราะเป็นการต่อสู้ด้วยนวมเล็กที่อันตรายกว่าคิกบ็อกซิ่ง อีกทั้งยังมีอาวุธให้ใช้มากกว่า จึงต้องเสริมทั้งความอึดและความคล่องตัวให้พร้อมที่สุดครับ”

ตอนนี้ สามเอ แบกศักดิ์ศรีอดีตแชมป์โลก ONE มาขึ้นสังเวียน พร้อมเดินหน้าต่อเต็มกำลังโดยเมินคำวิจารณ์เรื่องอายุที่เลยหลักสี่ไปแล้ว โดยเล็งใช้ชั้นเชิงที่เหนือกว่าให้เป็นประโยชน์เพื่อหยุดความร้อนแรงของ ตุย ลิน ทัต ให้อยู่หมัด

ด้าน ตุย ลิน ทัต ออกลีลาบู๊สุดดุดันและแม่นยำ เก็บชัยชนะได้ถึง 5 ครั้งจาก 6 ไฟต์ในศึก ONE ลุมพินี โดยเป็นการปิดเกมก่อนครบยกถึง 3 ครั้ง งานนี้เขาหวังพิชิตตำนานมวยไทยเพื่อลุ้นเปิดทางสู่เวทีระดับโลก

สามเอ ยอมรับว่าสภาพร่างกายอาจดูเป็นรอง ตุย ลิน ทัต แต่ถ้าเป็นเรื่องความเก๋า ตนไม่น้อยหน้าใคร พร้อมงัดศิลปะแม่ไม้มวยไทยครบเครื่องออกมาโชว์ให้ทุกคนหายคิดถึงและดับซ่าคู่ชกรุ่นน้องให้สำเร็จ

“ผมได้ดูฟอร์มของ ตุย ลิน ทัต แล้ว เขาเป็นนักมวยที่น่ากลัวและชกยาก มีหมัดเป็นจุดแข็ง และยังมีลูกเล่นพลิกแพลงหลายอย่างที่ต้องระวังเป็นพิเศษด้วย

แต่จุดแข็งของผมอยู่ที่ประสบการณ์และการอ่านเกม รวมถึงอาวุธมวยที่เหนือกว่า โดยเฉพาะแข้งซ้ายที่ยังเป็นทีเด็ด ผมขอเป็นด่านหินไม่ยอมให้ ตุย ลิน ทัต ผ่านไปง่าย ๆ และจะไม่ปล่อยให้เขาล้มคนไทยได้อีกครับ”

ไฟต์นี้ สามเอ ประกาศชัดเจนว่าจะกลับมาในเวอร์ชันที่แข็งแกร่งกว่าเดิม เพื่อโชว์ให้แฟนมวยเห็นว่าตนยังสู้ในระดับสูงได้แบบไม่มีปัญหา พร้อมย้ำเจตนารมณ์ชัดเจนว่าอยากกลับไปนั่งครองบัลลังก์ ONE อีกครั้ง

“การได้กลับมาชกมวยไทยอีกครั้ง จุดไฟในใจผมให้ลุกโชนขึ้นมาใหม่ ผมรู้สึกกระหายทุกวัน อยากซ้อม อยากขึ้นสังเวียนเพื่อแสดงศิลปะแม่ไม้มวยไทยให้แฟน ๆ ได้เห็น ไฟต์นี้ผมทุ่มสุดหัวใจจริง ๆ

ถ้าผมคว้าชัยชนะในครั้งนี้ได้จะเป็นการพิสูจน์ว่าผมยังสามารถยืนหยัดบนเส้นทางมวยไทยต่อไปได้ และผมตั้งเป้าไว้ว่าจะทำผลงานจนได้โอกาสก้าวไปชิงแชมป์โลกให้สำเร็จครับ”