เมืองไทย พีเค.แสนชัย พร้อมไล่บด แอนตาร์ คาเซม จอมบู๊ สัญชาติฝรั่งเศส-เบลารุส ในกติกามวยไทย 140 ป. ในศึกใหญ่ ONE ลุมพินี 126 วันศุกร์ที่ 26 ก.ย.นี้
เมืองไทย ผ่านการดวลกับบรรดานักชกตัวตึงมาแล้วมากมาย กวาดชัย 10 ครั้ง จาก 14 ไฟต์ที่ลงแข่ง และกำลังอยู่ในฟอร์มร้อนแรงชนะติดต่อกันใน 3 ไฟต์หลัง ล่าสุดเพิ่งแลกเดือดภาค 5 กับคู่ปรับเก่า เสกสรร อ.ขวัญเมือง ก่อนเข้าป้ายชนะคะแนนเอกฉันท์ ในศึก ONE ลุมพินี 114 เมื่อ มิ.ย. ที่ผ่านมา
“ไฟต์ที่แล้วกับพี่เสกสรร สนุกมากครับ ต่างคนต่างเดินแลกกันดุเดือดเต็มที่ ผมมั่นใจว่าเป็นฝ่ายชนะ เพราะอาวุธเข้าเป้ามากกว่า แถมมีจังหวะเตะจนพี่เขาล้มหลายครั้ง ดีใจมากที่ปลดล็อกชนะได้สำเร็จ หลังจากที่เคยแพ้พี่เขามาหลายครั้ง”
ไฟต์นี้เป้าหมายของ เมืองไทย ชัดเจนคือการกวาดชัยชนะต่อเนื่อง ทว่าภารกิจไม่ง่ายเมื่อเขาต้องเจอกับ แอนตาร์ นักสู้จากทีมของ เมดีห์ ซาทูต ผู้มีสถิติชนะ 6 จาก 9 ไฟต์ และกำลังร้อนแรงจากการเก็บชัย 4 ไฟต์ติดต่อกัน โดยเฉพาะผลงานล่าสุดที่ปิดเกม พันฤทธิ์ ลูกเจ้าแม่สายวารี ได้อย่างเด็ดขาดในศึก ONE ลุมพินี 116 เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา
“เป้าหมายของ แอนตาร์ ในครั้งนี้คือการล้มจอมเก๋าอย่าง เมืองไทย เพื่อขยับเข้าใกล้ความฝันคว้าสัญญา ONE สู่เวทีระดับโลก ฝั่งของ เมืองไทย ที่ผ่านคู่ชกต่างชาติมานับไม่ถ้วนก็เตรียมอาวุธเต็มคลังแสงพร้อมบู๊แหลกเพื่อสยบความร้อนแรงของคู่ต่อสู้ให้ได้”
“แอนตาร์ เป็นมวยที่มีหมัดเร็ว หนัก และคมมาก เขาได้เปรียบผมในเรื่องความเร็วรวด ส่วนสูงและช่วงชกที่ยาวกว่า แต่หากเราระวังเรื่องการป้องกันตัวได้ดี ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวครับ
ผมเคยเจอมวยทรงนี้มาหลายครั้งแล้ว จึงเตรียมอาวุธมาครบ ทั้งหมัด เท้า เข่า และศอก ไฟต์นี้ผมจะเดินเบียดเข้าหาและปล่อยอาวุธต่อเนื่อง โดยต้องป้องกันตัวให้ดีเพราะหากโดนอาวุธหนักของเขาเต็ม ๆ ก็มีสิทธิ์หล่นได้ แต่ถ้าผมไม่พลาดก่อน ผมมั่นใจว่าอาวุธของผมจะทำให้เขาทนไม่ไหว โอกาสจบไม่ครบยกจึงมีสูงมาก ถึงเขาจะเก่งหมัดมาจากไหน ผมก็ขอให้เขาระวัง ‘ศอกผีดิบ’ ของผมไว้ด้วยครับ”
นอกจากชัยชนะแล้ว เมืองไทย ยังหวังจะสร้างผลงานให้เป็นที่จดจำเพื่อเปิดประตูกลับสู่สังเวียนระดับโลกอีกครั้งด้วย “ไฟต์นี้สำคัญกับผมมาก ผมจะทุ่มเทเต็มที่ หากชนะได้สวย ๆ ผมหวังว่าจะได้รับโอกาสกลับไปแข่งขันใน วัน แชมเปียนชิพ อีกครั้ง”
