"นาบิล อานาน" แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) วัย 21 ปี สัญชาติแอลจีเรีย-ไทย ไม่หวั่นต้องเปลี่ยนคู่ชกกะทันหัน พร้อมฝ่าด่านแกร่ง "ฮิโรมิ วาจิมะ" ดีกรีอดีตแชมป์ K-1 วัย 30 ปี จากญี่ปุ่น พิสูจน์ฝีมือในกติกาคิกบ็อกซิ่งต่อเนื่อง โดยขยับขึ้นสู่รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) ในศึกใหญ่ประวัติศาสตร์ ONE 173: ซุปเปอร์บอน vs มาซาอากิ ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ย. 68 ณ สนามอาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
เดิมที “นาบิล” มีคิวรั้งบัลลังก์ ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต ครั้งแรกกับ “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” เจ้าของแชมป์ ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเดียวกัน แต่อีกฝ่ายเกิดได้รับบาดเจ็บระหว่างฝึกซ้อมจนต้องถอนตัวไป ทำให้เขาต้องเปลี่ยนคู่ชกมาเป็น “ฮิโรมิ” นักคิกบ็อกซิ่งคนดังที่เพิ่งเซ็นสัญญากับ ONE เมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา พร้อมสลับมาสู้ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต
ล่าสุด “นาบิล” เพิ่งโชว์ฝีมือในกติกาคิกบ็อกซิ่งเป็นครั้งแรกบนเวที ONE พบกับ “อิเลียส เอ็นนาฮาชิ” อดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ในศึก ONE ลุมพินี 126 เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา แต่การแข่งขันต้องจบลงแบบ “ไม่มีผลการแข่งขัน” อย่างน่าเสียดาย เมื่อ “นาบิล” เตะเข้ากระจับ “อิเลียส” จนไม่สามารถแข่งขันต่อได้ แต่ถือว่าได้บทเรียนสำคัญจากการชกกติกาคิกบ็อกซิ่งมาเต็มกระบุง
“ไฟต์แรกที่ขึ้นชกคิกบ็อกซิ่งใน ONE ผมถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องการจับจังหวะ แต่อาจต้องเพิ่มการออกอาวุธต่อเนื่องให้มากกว่านี้ ผมเป็นมวยรูปร่างสูง จึงต้องปรับจังหวะการออกอาวุธให้คล่องตัวขึ้น หากสามารถออกเป็นชุดได้มากกว่านี้ เชื่อว่าผลงานจะดีขึ้นแน่นอน ส่วนเรื่องรีแมตช์กับ อิเลียส ก็แล้วแต่ทาง ONE จะพิจารณาครับ เพราะผมพร้อมสู้กับทุกคนอยู่แล้ว”
ส่วนกรณีที่เขาพลาดเผชิญหน้ากับ “แฮ็กเกอร์ตี” ซึ่งสร้างความเสียดายให้กับแฟนกีฬาต่อสู้ทั่วโลกนั้น ทาง “นาบิล” ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เพราะอาการบาดเจ็บกับนักกีฬาเป็นของคู่กัน และแม้ตนต้องปรับเปลี่ยนหลายอย่างแบบกะทันหัน แต่ยืนยันพร้อมสู้เต็มที่เหมือนทุกไฟต์แน่นอน
“ผมรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้กลับมาชกในกติกามวยไทย ตอนแรกคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้ขึ้นชกแล้ว แต่สุดท้ายทางรายการสามารถหาคู่ชกใหม่ให้ได้ ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก ส่วนการถอนตัวของ แฮ็กเกอร์ตี ก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ เพราะนักกีฬาทุกคนย่อมมีโอกาสบาดเจ็บระหว่างการฝึกซ้อมครับ”
“ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนขึ้นชก ผมต้องปรับหลายอย่าง ทั้งเรื่องคู่ชกและกติกา แต่ไม่ได้รู้สึกกังวล โดยเฉพาะการขยับมาชกรุ่นเฟเธอร์เวต เพราะทำน้ำหนักได้สบาย อาจมีเพียงเรื่องแรงปะทะที่ต้องระวัง ส่วนกติกาคิกบ็อกซิ่งก็ไม่มีปัญหา เพราะเพิ่งผ่านไฟต์ก่อนหน้าในกติกานี้มา ยังคุ้นจังหวะดีและพร้อมเต็มที่ครับ”
ในการแข่งขันกติกามวยไทยชื่อของ “นาบิล” อาจเป็นที่น่าเกรงขามของคู่ชกจากทั่วทุกมุมโลก แต่ในเส้นทางคิกบ็อกซิ่งเขายังต้องสะสมประสบการณ์อีกพอสมควร แม้เจ้าตัวเคยได้ชื่อว่าเป็นนักสู้ดีกรีแชมป์โลก WKN คิกบ็อกซิ่ง ระดับนานาชาติมาก่อน
เมื่อต้องดวลกับ “ฮิโรมิ” ที่คว้าแชมป์ K-1 รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวต มาครองในปี 2564 พร้อมป้องกันตำแหน่งได้ถึง 2 ครั้ง รวมถึงครองสถิติหรูคว้าชัยชนะ 22 ครั้ง จากการขึ้นชกระดับอาชีพทั้งหมด 28 ไฟต์ ยิ่งทำให้ “นาบิล” กระหายชนแรงความท้าทายนี้
