"ก้องธรณี" พร้อมหยุดไร้พ่าย "อัสลามจอน"

ไฟต์ล่าสุดในศึก ONE Fight Night 31 เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา “ก้องธรณี” ขึ้นสังเวียนรีแมตช์เคลียร์ใจกับ “น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย” อดีตแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) หลังผลการแข่งขันภาคแรกในศึก ONE Fight Night 28 เมื่อเดือน ก.พ. 68 ต้องจบลงแบบสุดดรามาด้วยชัยชนะคะแนนไม่เอกฉันท์ของ “ก้องธรณี”

เกมการชกในภาคที่ 2 ยังคงออกมาสนุกตื่นเต้นเร้าใจไม่แพ้ภาคแรก หลังต่างฝ่ายต่างสาดอาวุธเข้าใส่กันไม่มีหยุดตลอดทั้ง 3 ยก ก่อนสุดท้ายจะเป็น “น้องโอ๋” ที่เข้าทำได้ชัดเจนแจ่มแจ้งมากกว่าเป็นฝ่ายแก้มือเอาชนะไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ ซึ่ง “ก้องธรณี” ที่ต้องหล่นจากตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 3 มาอยู่อันดับ 4 ของแรงกิงจากความพ่ายแพ้ในวันนั้น ได้เล่าย้อนไปถึงบทเรียนอันล้ำค่าที่ได้รับจากรุ่นพี่จอมเก๋า

“ไฟต์ล่าสุดกับ น้องโอ๋ รูปเกมยกแรกสูสีครับ ส่วนยกสอง ผมมีจังหวะจะน็อกพี่เขาได้ แต่ตอนนั้นผมคิดแค่จะปิดเกมอย่างเดียวจึงกลายเป็นเร่งตัวเองเกินไป ทำให้ออกอาวุธไม่เข้าเป้าจนพี่เขากลับมาตั้งลำได้แล้วตอบโต้คืนมา พอเข้ายกสุดท้าย ต่างฝ่ายต่างแก้เกมมา แต่ผมกลับเข้าผิดจังหวะกลายเป็นโดนเตะเยอะมาก ทำให้ต้องแพ้ไปครับ”

“ผมรู้สึกเสียดายที่แพ้ครั้งแรกบนเวที ONE ใหญ่ เพราะฟิตซ้อมไปเต็มที่ แต่การแก้เกมบนเวทีผมผิดพลาดไปเอง ซึ่งผมได้บทเรียนว่าหลังจากนี้ ถ้าจะออกอาวุธต้องออกให้ชัดเจน และต้องหาจังหวะให้ดีกว่านี้ ส่วนเรื่องการตกมาอยู่อันดับ 4 ของแรงกิง ก็ไม่มีปัญหาอะไร พร้อมสู้ใหม่เพื่อไต่ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่สูงกว่านี้ครับ”

กลับมาครั้งนี้ “ก้องธรณี” จะต้องทำหน้าที่รับน้องโหด “อัสลามจอน” ดาวบู๊ไร้พ่ายที่โชว์ความหาญกล้าประกาศลั่นกลางเวทีขอท้าดวล “ก้องธรณี” หลังจากคว้าสัญญา ONE ฉบับที่ 29 มาครองเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา

“วันนั้นที่ อัสลามจอน ได้สัญญาผมก็อยู่ที่สนามครับ รู้สึกตกใจเหมือนกันที่เขาเรียกหาผม อาจจะเป็นเพราะผมอยู่ในแรงกิงอันดับ 4 ถ้าหากเขาชนะผม เขาอาจจะได้ขึ้นไปอยู่ในแรงกิงแทนที่ แต่ผมอยากจะบอกว่าผมไม่ใช่งานง่ายของเขาแน่นอน เพราะในแรงกิงมีแต่เสือ สิงห์ กระทิง แรด ทั้งนั้นครับ”

การเตรียมความพร้อมไฟต์นี้ “ก้องธรณี” ย้ายจากค่ายพีเค.แสนชัย กลับมาเก็บตัวซ้อมที่ค่ายส.สมหมาย ต้นสังกัด และได้เพิ่มโปรแกรมฝึกซ้อมหมัดกับครูมวยชาวต่างชาติ เพื่อรับมือกับสไตล์การชกสุดจัดจ้านรวมถึงลีลาบนสังเวียนที่ยียวนกวนใจของ “อัสลามจอน” ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้คู่ชกมาแล้วหลายราย

“ไฟต์นี้ผมโฟกัสเรื่องการออกอาวุธและฟุตเวิร์กให้เร็วขึ้น เพื่อรับมือกับความไวของ อัสลามจอน นอกจากนี้ ผมยังได้ฝึกหมัดกับครูมวยต่างชาติ ทำให้หมัดคมขึ้น เข้าออกไวขึ้น และได้จังหวะการชกแบบมวยสากล ซึ่งสามารถปรับใช้กับมวยไทยได้ดีครับ”

“จุดอ่อนของ อัสลามจอน คือการเข้ามวยค่อนข้างหลวม ซึ่งผมจะพยายามหาจังหวะตอบโต้กลับไป รวมถึงการเล่นลูกตื๊อที่ผมถนัดกว่า น่าจะเบียดเขาได้ในเกมยาว ผมมั่นใจว่าความแข็งแกร่งเหนือกว่าแน่ และแม้ว่าเขาจะมีอาวุธหนักเคยกดน็อกคู่ชกใน ONE ลุมพินี มาแล้วถึง 4 คน แต่ผมมั่นใจว่ารับมือได้ ส่วนสไตล์การชกกวน ๆ ของเขา วิธีรับมือคืออย่าไปตกใจ และผมอาจจะมีกวนกลับไปบ้าง ต้องไปรอดูบนเวทีครับ”

แม้คู่ชกอย่าง “อัสลามจอน” จะไม่เคยแพ้ใครตลอดการชกระดับอาชีพ 22 ไฟต์ แต่ “ก้องธรณี” ก็เชื่อมั่นว่าตนจะสามารถยัดแพ้แรกให้กับคู่ชกมาดกวนลงได้อย่างเด็ดขาดด้วยการปิดเกมไม่ครบยก เพื่อรักษาสถานะผู้ท้าชิงอันดับ 4 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ต่อไป

“ไฟต์นี้สำคัญมาก เพราะถ้าเกิดแพ้ ผมอาจจะหลุดจากแรงกิง ผมคิดว่าไม่ผมก็เขาจะต้องถูกหามลงเปลแน่นอน ใครพลาดก่อนก็ร่วง แต่ผมจะเป็นคนส่งเขาลงเปลเอง ผมจะพยายามทำให้เต็มที่เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายคือ การเป็นแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ครับ”

“ถึง อัสลามจอน จะยังไม่แพ้ใครตลอดอาชีพ แต่วันนั้นเขาอาจจะแพ้ผมก็ได้ เดี๋ยวไฟต์นี้ได้รู้ว่าของจริงเป็นยังไงแล้วเจอกันครับ”