"พระจันทร์ฉาย" รับ "ดิ เบลลา" แกร่งสมเป็นแชมป์

วันจันทร์ที่ 06 ตุลาคม 2568
22
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share

"พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัย" แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.) ยอมรับความพ่ายแพ้โดยสมบูรณ์แบบ หลังเสียเข็มขัดคิกบ็อกซิ่งรุ่นเดียวกันให้กับ "โจนาธาน ดิ เบลลา" กำปั้นยอดฝีมือตัวแทนอิตาลี-แคนาดา ในศึก ONE Fight Night 36 เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา

ไฟต์นี้ “พระจันทร์ฉาย” ถูกประกบให้มารีแมตช์ป้องกันเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต จากแชมป์โลกเฉพาะกาลอย่าง “ดิ เบลลา” หลังภาคแรกในศึก ONE ลุมพินี 68 เมื่อเดือน มิ.ย. 67 “พระจันทร์ฉาย” ทำแสบยัดแพ้แต้มแรกในการชกระดับอาชีพให้กับ “ดิ เบลลา” พร้อมคว้าเข็มขัดคิกบ็อกซิ่งที่วางอยู่มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่

ก่อนเริ่มเกม “พระจันทร์ฉาย” มาพร้อมความมั่นใจเกินร้อยหวังย้ำแค้น “ดิ เบลลา” ให้ได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้นทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่แชมป์โลกชาวไทยคาดการณ์ โดยถูก “ดิ เบลลา” แก้เกมมาเปิดเกมบุกใส่อย่างหนักหน่วงตั้งแต่ยกแรก ก่อนสุดท้ายจะพ่ายไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ ส่ง “ดิ เบลลา” ขึ้นแท่นเป็นราชันคิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต แต่เพียงผู้เดียว

“ไฟต์นี้ผมตั้งใจใช้ประสบการณ์จากภาคแรกมาแก้เกม แต่ต้องยอมรับว่า ดิ เบลลา เตรียมตัวมาดีและแข็งแกร่งกว่าเดิม เขาชิงจังหวะบุกก่อน ทำได้ดีมากทั้งการออกอาวุธและการเคลื่อนที่ที่เร็วขึ้นมาก ผมพยายามจับจังหวะอยู่ตลอด แต่ตามความเร็วของเขาไม่ทันจริง ๆ ครับ”

“โดยรวม ผมพอใจกับฟอร์มของตัวเอง เพราะทำได้ตามที่ซ้อมมาแทบทั้งหมด และทุ่มเทเต็มที่แล้ว อาจมีช้าบ้างในบางจังหวะเพราะห่างเวทีไปนาน แต่ต้องชม ดิ เบลลา ที่โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม แข็งแกร่ง และสมบูรณ์แบบจริง ๆ ครับ”

ความพ่ายแพ้ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปีของ “พระจันทร์ฉาย” ทำเอาแฟน ๆ หลายคนอดเป็นห่วงไม่ได้ถึงสภาพจิตใจของเจ้าตัวหลังจบไฟต์ อย่างไรก็ตาม “พระจันทร์ฉาย” ยืนยันหนักแน่นไม่มีอะไรต้องกังวล เนื่องจากคนที่ตนแพ้ให้คือนักคิกบ็อกซิ่งเบอร์ 1 ของโลกในรุ่นสตรอว์เวต

“นักชกทุกคนเมื่อขึ้นเวที ไม่มีใครอยากแพ้อยู่แล้ว ผมเองก็เช่นกัน ถ้าถามว่าเสียใจไหม ก็ต้องตอบว่าเสียใจ แต่ไม่ได้รู้สึกเสียดายหรือผิดหวังมากนัก เพราะคนที่ผมแพ้คือสุดยอดนักคิกบ็อกซิ่งที่เก่งที่สุดในโลกในรุ่นสตรอว์เวต และผมเชื่อว่าเขาจะครองเข็มขัดไปได้อีกนานหลายปี”

“ทั้งชีวิตผมชกคิกบ็อกซิ่งมาแค่ 3 ไฟต์ แต่สามารถเอาชนะนักชกระดับโลกอย่าง ดิ เบลลา ได้ 1 ครั้ง และแพ้ 1 ครั้ง ถือว่าไม่มีอะไรเสียหายเลยครับ ตรงกันข้าม ผมได้บทเรียนมากมายจากเขา การเจอกับ ดิ เบลลา เพียง 2 ไฟต์ ให้ประสบการณ์เหมือนผ่านศึกคิกบ็อกซิ่งมา 20–30 ครั้งเลยก็ว่าได้”

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติและดีใจมากที่ได้ชกกับสุดยอดนักคิกบ็อกซิ่งอย่าง ดิ เบลลา ถึง 2 ครั้ง และทราบว่าเขามีแผนอยากลองข้ามสายมาชกมวยไทยในอนาคต ถ้าเขาเก็บประสบการณ์ได้มากพอ แล้วเรามีโอกาสเจอกันอีกในกติกามวยไทยจริง ๆ ผมก็จะถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ”

หลังต้องห่างครอบครัวมาเก็บตัวซ้อมเข้มเพื่อไฟต์นี้เป็นระยะเวลานานกว่า 2 เดือนครึ่ง ตอนนี้ “พระจันทร์ฉาย” ขอพักกายพักใจจากสังเวียนการต่อสู้ชั่วคราว เพื่อหันไปทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวอย่างเต็มรูปแบบ ก่อนจะกลับมาซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับไฟต์ต่อไป

“ตอนนี้ผมยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายต่อไปครับ อยากพักจากวงการมวยชั่วคราว เพื่อใช้เวลากับครอบครัวอย่างเต็มที่ เพราะตลอด 2 เดือนครึ่งที่ผ่านมา ผมเก็บตัวซ้อมอยู่ในค่ายตลอด ไม่ได้พาไปเที่ยวเลย หลังจากได้พักจนเต็มอิ่มแล้ว ผมจะกลับมาซ้อมต่อทันที ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันเข็มขัดมวยไทย หรือกลับไปลุยใหม่ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ผมพร้อมทั้งสองทางครับ”


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด