เหตุการณ์ดราม่ากลางศึก ONE ลุมพินี 128 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม กลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง หลัง "อับเดสซามี เรนิมี" นักชกดาวรุ่งวัย 19 ปีชาวโมร็อกโก จากค่ายเพชรสมานยิม ถูกผู้ตัดสินชูใบแดงแพ้ฟาวล์ทันทีในยกที่ 2 จากการเตะซ้ำใส่คู่ต่อสู้ "พญาครุฑ เสือจันถกมวยไทย" ถึง 3 จังหวะติดต่อกัน
โดยเกมการชก เพียง 10 วินาทีแรก เรนิมี ปล่อยหมัดซ้ายทำให้ พญาครุฑ ล้ม ก่อนสะบัดแข้งซ้ายตามสัญชาตญาณใส่ศีรษะคู่ต่อสู้ทันที ถูกตัดสินให้ ใบเหลือง เป็นการเตือนครั้งแรก
ต่อมาเพียงครึ่งนาที พญาครุฑล้มลงจากแรงกระแทกอีกครั้ง เรนิมีพยายามเตะซ้ำ แต่กรรมการเข้าขวางไว้ทัน พร้อม เตือนด้วยวาจา ครั้งที่สอง
เข้าสู่ยก 2 วินาทีที่ 46 พญาครุฑเสียหลักล้ม เรนิมีซัดแข้งซ้ายเต็มใบหน้าทันที คราวนี้กรรมการไม่ลังเล ชูใบแดงไล่ออกจากการแข่งขัน
ONE Championship ออกแถลงชี้แจงว่า ใบแดงครั้งนี้ ไม่ถือเป็นโทษแบนอัตโนมัติ ตามกติกา แต่เป็นการลงโทษสูงสุดของไฟต์นั้น ซึ่งตามมาตรฐานแล้วนักกีฬาจะโดน ตัดค่าตัวขั้นต่ำ 30% และปรับแพ้ฟาวล์ทันที ส่วนใบเหลืองจะโดนตัดค่าตัว 10% เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ONE ย้ำชัดว่า “เจตนา” และ “จังหวะของเหตุการณ์” คือหัวใจในการพิจารณาฟาวล์ หากมองว่าเป็นเพียงตามน้ำจากสัญชาตญาณนักสู้ ยังพอเข้าใจได้ แต่หากสะท้อนถึง “การขาดสามัญสำนึก” รายการก็ มีสิทธิ์ไม่ให้โอกาสขึ้นชกต่อในอนาคต
โดยเฉพาะในระบบ ไฟต์ต่อไฟต์ของ ONE ลุมพินี นักกีฬาจึงเสี่ยง “ถูกตัดชื่อออกจากโผ” ได้ทันทีหากทำผิดบรรทัดฐานด้านจิตวิญญาณของนักกีฬา
ในโลกของกีฬาการต่อสู้ “แพ้หรือชนะ” อาจตัดสินจากคะแนนหรือการน็อก แต่ สิ่งที่แฟนมวยจดจำไม่ใช่แค่สกอร์…แต่คือหัวใจและน้ำใจนักกีฬา
ใบแดงครั้งนี้อาจไม่ได้ทำให้เรนิมีถูกแบนทันที แต่สิ่งที่ยากกว่าคือ การชนะใจผู้ชมเพื่อเรียกศรัทธากลับมา
