"ทาเครุ" ลั่นไฟต์นี้ต้องชนะโอกาสถอนแค้น "รถถัง"

"ทาเครุ เซกาวา" นักสู้ซูเปอร์สตาร์ วัย 34 ปี จากญี่ปุ่น ผู้ท้าชิงอันดับ 2 ของแรงกิง ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ตั้งเป้าเรียกฟอร์มเก่งสยบ "เดนิส พูริช" คู่ชกสายเก๋า วัย 40 ปี ตัวแทนจากบอสเนีย-แคนาดา ภายใต้กติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต ในศึกใหญ่ ONE 173: ซุปเปอร์บอน vs มาซาอากิ ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ย. นี้ ที่ สนามอาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยหวังเปิดทางสู่เป้าหมายสำคัญ นั่นคือการรีแมตช์กับโจทก์เก่า "รถถัง จิตรเมืองนนท์" อดีตแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต
“ทาเครุ” หวังกู้ศักดิ์ศรีคืนมาเต็มที่ หลังไฟต์ล่าสุดในศึก ONE 172 เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา พลาดท่าโดนฮุกซ้ายของ “รถถัง” กดร่วงคาถิ่นเพียงยกแรก ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต ซูเปอร์ไฟต์ 5 ยก โอกาสนี้ “ทาเครุ” ขอมุ่งพิสูจน์ฝีมือด้วยการไล่ทุบ “เดนิส” ให้จบแบบเด็ดขาดไม่ให้แฟนชาวญี่ปุ่นต้องผิดหวังซ้ำอีก
“ผมรู้สึกว่า เดนิส เป็นคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมที่สุด เขาแข็งแกร่ง พลังรุนแรง และจิตใจที่เข้มแข็ง ตอนเห็นเขาชกกับ รถถัง ผมคิดว่าเขาคือนักสู้ที่สมบูรณ์แบบ”
“แต่ถ้าพูดถึงความแข็งแกร่งทางจิตใจและพลังหมัด ผมเชื่อว่าไม่เป็นรองแน่ ไฟต์นี้เราจะยืนแลกอาวุธกัน และสุดท้ายผมจะเป็นฝ่ายที่ชนะน็อกเอาต์”
“ไฟต์ล่าสุดของผมจบลงเร็วมาก ผมจึงอยากลบภาพจำนั้นออกไป โดยแสดงให้แฟน ๆ ชาวญี่ปุ่นเห็นการต่อสู้ที่ดีที่สุด และเอาชนะ เดนิส ให้ได้ครับ”
นอกจากเรียกความมั่นใจกลับคืนมา “ทาเครุ” ยังหวังให้การเก็บชัยเหนือ “เดนิส” เป็นใบเบิกทางให้ตนได้มีโอกาสวัดฝีมือกับ “รถถัง” อีกครั้ง หลังความพ่ายแพ้ต่อนักชกขวัญใจชาวไทยกลายเป็นเสี้ยนหนามฝังอยู่ในใจลืมไม่ลง
“แรงจูงใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผมคือการได้แก้แค้น รถถัง ผมเซ็นสัญญากับ ONE ก็เพราะต้องการโอกาสได้สู้กับเขาอีกครั้ง ผมอยากเผชิญหน้ากับเขาด้วยสภาพร่างกายสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ”
“นับตั้งแต่ผมเข้าร่วมกับ ONE ผมต้องเผชิญทั้งการบาดเจ็บและความพ่ายแพ้มากมาย สิ่งที่ผมต้องการคือเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้นและได้รีแมตช์กับ รถถัง การได้แก้แค้นครั้งนี้ ผมอยากพิสูจน์ว่า หากไม่ยอมแพ้ ความฝันและเป้าหมายก็เป็นจริงได้ นั่นคือสิ่งที่ผมตั้งใจถ่ายทอดผ่านการต่อสู้ของผมให้กับทุกคน ไฟต์นี้ ผมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด”
เท่านั้นยังไม่พอ “ทาเครุ” หวังให้การโค่น “เดนิส” ช่วยปลดล็อกเส้นทางการต่อสู้ใน ONE ให้กลับมาสดใสอีกครั้ง โดยเฉพาะการได้ขึ้นชกในบ้านเกิดต่อหน้าแฟน ๆ ในฐานะฮีโรของชาติ ทำให้เขาไม่อยากพ่ายซ้ำอีก งานนี้เจ้าตัวพร้อมทุ่มสุดกำลังเพื่อกลับมายืนหยัดแถวหน้าของวงการด้วยความภาคภูมิใจ
“ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา ผมยังไม่สามารถเก็บชัยชนะให้แฟน ๆ ชาวญี่ปุ่นได้เห็น และนั่นทำให้ผมไม่พอใจในตัวเองเลย ยิ่งไปกว่านั้น ผมยังไม่เคยชนะติดต่อกัน ใน ONE ไฟต์นี้ผมจึงตั้งใจเต็มที่ ต้องเอาชนะให้ได้ครับ”
“ผมไม่เคยแพ้สองไฟต์ติดต่อกันในอาชีพมาก่อน ถ้ามันเกิดขึ้น ผมคงรู้สึกเหมือนทุกอย่างจบลง ผมรู้สึกกดดันมากเพราะว่าจะแพ้อีกไม่ได้ แต่แรงผลักดันที่สำคัญกว่าคือ ผมอยากคว้าชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ให้แฟน ๆ ชาวญี่ปุ่นได้เห็นครับ”