"ยามีน" ขอสู้สุดตัว มุ่งคืนฟอร์มล่าชัย

“ยามีน” เปิดตัวในศึก ONE ลุมพินี ได้อย่างสวยงาม ด้วยการคว้าชัยแบบไม่ครบยก พร้อมคว้าโบนัส 350,000 บาท ได้รวดในสองไฟต์แรก แต่ล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 74 เมื่อเดือน ส.ค. 67 เจ้าตัวต้องถูกหยุดสถิติไร้พ่ายในรายการลง เมื่อเป็นฝ่ายพ่ายน็อกยก 2 “อิบรากิม อับดุลเมชิดอฟ” จากรัสเซีย ก่อนหายหน้าจากสังเวียนไปนานนับปีเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นช่วงเวลาสุดยากลำบาก

“หลังจากไฟต์ที่แพ้ อิบรากิม ผมมีอาการบาดเจ็บหลายจุด ทั้งที่ขา หัวเข่า และบริเวณเอ็นร้อยหวาย จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ ทำให้ต้องใช้เวลาฟื้นฟูร่างกายนาน โดยในช่วงแรกไม่สามารถออกกำลังกายได้เลยครับ”

“ช่วงเวลาที่ต้องพักยาวไม่ได้ขึ้นชกถือเป็นช่วงที่ยากลำบาก เพราะรายได้ลดลงจนเงินเก็บเริ่มร่อยหรอ ผมต้องหางานเสริมเพื่อเลี้ยงดูแฟน ลูก และครอบครัว เนื่องจากมีภาระค่าใช้จ่ายมากครับ”

“ตลอดปีที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต บางวันครอบครัวต้องประหยัดถึงขั้นให้แฟนรอกินข้าวที่เหลือจากลูก แต่พวกเขาก็ยังคงอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจผมเสมอ นั่นจึงเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ผมอยากกลับมาสู้เพื่อครอบครัวอีกครั้งครับ”

“แฟนเคยขอให้ผมเลิกชกมวย เพราะไม่อยากเห็นผมบาดเจ็บอีก ส่วนลูกชายวัย 6 ขวบยังมองว่าการชกมวยเป็นเรื่องสนุก จึงคอยเชียร์ให้ผมสู้ต่อ สำหรับผมใจยังสู้และยังอยากกลับมาชกอยู่ตลอด หลังจากที่อาการบาดเจ็บเริ่มดีขึ้น ‘เสี่ยแขก’ ก็โทรมาชวนให้กลับไปทำร่างกายที่ค่าย ตอนนี้ผมกลับมาเก็บตัวซ้อมได้ประมาณ 4 เดือนแล้วครับ”

แม้ต้องร้างสังเวียนไปนานนับปี แต่ “ยามีน” ยังเชื่อมั่นในพลังความมุ่งมั่น และสภาพร่างกายอย่างเต็มที่ เชื่อว่ากลับมาสมบูรณ์พร้อมชกได้แบบไม่มีปัญหา งานนี้แฟนมวยเตรียมตั้งตารอชมกันได้เลย

“ตอนทราบข่าวว่าจะได้ขึ้นชกอีกครั้ง ผมรู้สึกดีใจมาก การกลับมาครั้งนี้ถือว่าไม่ยากเท่าไหร่ เพราะก่อนหน้านี้ผมเคยพักไปนานกว่า 4 ปีแล้วยังสามารถกลับมาได้ รอบนี้ผมค่อย ๆ ฟื้นฟูร่างกายอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะเร่งการซ้อมให้เข้มข้นขึ้นในช่วงสองเดือนสุดท้าย จนทุกอย่างเริ่มเข้าที่ครับ”

“การฟื้นฟูร่างกายของผมได้รับความช่วยเหลืออย่างมากจากทีมโค้ชวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่คอยแนะนำเทคนิคและวิธีการฝึกซ้อมให้เหมาะสม จนสามารถกลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง และยังได้เพื่อนร่วมค่ายอย่าง ‘ตะวันฉาย’, ‘เสือคิม’ และ ‘ยอดไอคิว’ มาช่วยเป็นคู่ซ้อมและเล่นเชิงให้ตลอด ทำให้ผมมั่นใจว่าความพร้อมในไฟต์นี้ดีที่สุดเท่าที่เคยมีครับ”

กลับมาครั้งนี้ “ยามีน” ต้องดวลอาวุธกับนักสู้สุดอันตรายอย่าง “ซ่อนรัก” ที่มีสไตล์การชกบู๊ถึงใจ ไม่เคยคิดยอมแพ้ง่าย ๆ แม้เจ้าตัวยอมรับว่าแม้สภาพร่างกายอาจเป็นรอง แต่กระดูกมวยยังแกร่ง ยืนยันพร้อมสู้แบบสุดฝีมือเพื่อไม่ทำให้ทุกคนที่รอคอยการกลับมาของตนต้องผิดหวัง

“ซ่อนรัก เป็นมวยที่มีอาวุธหนักแรง จุดที่น่ากลัวที่สุดคือแข้งซ้ายและหมัดซ้าย รวมถึงมีความอึดทน แต่ถ้าเขาโดนบดบี้หนักไปเรื่อย ๆ ก็มีหมดแรงให้เห็นเหมือนกัน ไฟต์นี้อาจต้องวัดกันที่พละกำลัง”

“ผมยอมรับว่าอาจมีเสียเปรียบเรื่องสภาพร่างกายบ้าง เพราะหยุดชกมวยไปนาน ขณะที่ ซ่อนรัก ได้มีโอกาสขยับร่างกายอยู่ตลอด ผมคงต้องเอาลูกประสบการณ์ที่เหนือกว่าออกมาช่วยสู้ในครั้งนี้ครับ”

“ไฟต์นี้ผมพร้อมสู้เต็มที่ เพราะซ้อมมาเยอะ แม้จะหายไปนาน และมีแฟนมวยคาดหวังเยอะ ก็ไม่ค่อยกดดัน แต่อาจมีตื่นเต้นบ้าง”

“ตอนนี้ ผมกระหายอยากชกมาก และอยากปิดเกมเร็วให้ได้เพื่อคว้าโบนัสอีกครั้ง เพราะอยากนำเงินไปดูแลครอบครัวครับ”