"ซ่อนรัก" มั่นใจ "ยามีน" ร้างเวทีมีแผ่วปลาย

“ซ่อนรัก” ถือเป็นอีกหนึ่งนักชกที่แฟนมวยชื่นชอบในสไตล์การชกบู๊แหลกไม่เกรงใจใคร จนทำให้ได้โอกาสมาล่าฝันบนเวที ONE ลุมพินี อย่างต่อเนื่องถึง 13 ไฟต์ และฝากผลงานล่าสุดเอาไว้ในศึก ONE ลุมพินี 119 เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ด้วยการเปิดฟลอร์แลกเดือดกับ “สมิงดำ เอ็นเอฟ.ลูกสวน” อย่างสุดมันตลอด 3 ยก ก่อนสุดท้ายจะพ่ายไปด้วยคะแนนเอกฉันท์

อย่างไรก็ตาม หลังจบการแข่งขันได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่แฟนมวยจำนวนไม่น้อยที่เห็นต่างจากผลการตัดสิน โดยมองว่า “ซ่อนรัก” เป็นฝ่ายทำได้ดีกว่าและสมควรได้รับชัยชนะ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าแปลกใจไม่น้อยกับผลการแข่งขัน และได้วิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ทำให้ต้องตกเป็นฝ่ายแพ้ในสายตากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 3 ท่าน

“ไฟต์ล่าสุดที่เจอกับ สมิงดำ เราชกกันได้สูสีมากตลอดทั้ง 3 ยก แต่ส่วนตัวผมมองว่าตัวเองทำได้ดีกว่าในเรื่องการเดินออกอาวุธ โดยเฉพาะในยกแรกและยกสุดท้าย ตอนประกาศผลคะแนน ผมค่อนข้างมั่นใจว่าจะเป็นฝ่ายชนะ แต่พอกรรมการประกาศให้ สมิงดำ ชนะ ยอมรับว่าตกใจเหมือนกัน แต่ก็เคารพคำตัดสินและเข้าไปแสดงความยินดีกับเขาครับ”

“ผมคิดว่าสาเหตุที่ทำให้แพ้ในไฟต์นั้น น่าจะเป็นเพราะผมล้มบ่อยในยกที่ 2 และยกสุดท้าย ทำให้ภาพรวมการชกดูไม่ดีเท่าที่ควร ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ผมได้นำมาปรับปรุงให้ดีขึ้นต่อไปโดยเฉพาะเรื่องหลักการยืนให้มั่นคงมากขึ้น ส่วนอนาคตถ้ามีโอกาสผมอยากจะแก้มือกับ สมิงดำ อีกครั้ง ถ้าได้เจอกันจริง ๆ ผมต้องการให้เกมจบแบบไม่ครบยกจะได้ชี้ขาดผู้ชนะกันไปเลยครับ”

ไฟต์ที่ 14 ของ “ซ่อนรัก” จะได้ขึ้นชกคู่เอกต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 โดยจะพบกับ “ยามีน” ที่ไฟต์นี้สลัดอาการบาดเจ็บพร้อมกลับมาขึ้นชกในรอบกว่า 1 ปี โดย “ซ่อนรัก” ที่เคยผ่านประสบการณ์หยุดมวยไปนานเช่นกัน มั่นใจว่า “ยามีน” จะต้องประสบปัญหาอย่างหนักบนเวที ซึ่งเขาก็ได้เตรียมอาวุธเด็ดมาพร้อมเล่นงานคู่ชกมากฝีมือรายนี้ไว้เรียบร้อย

“ยามีน เป็นมวยฝีมือที่มีลูกเตะซ้ายอันตรายมากครับ เขาเตะได้ทั้งไวและแรง แต่อาวุธอื่น ๆ ยังไม่หนักเท่าไหร่ ซึ่งผมได้เตรียมทางแก้ลูกเตะซ้ายของเขาไว้แล้ว ถ้าต้องชกกับ ยามีน ในรูปแบบมวยไทย 5 ยก ผมอาจจะแพ้เรื่องเชิงมวย แต่ในรายการนี้ชกกันแค่ 3 ยกนวมเล็กอะไรก็เกิดขึ้นได้ อยู่ที่ว่าใครแข็งแรงกว่า ออกแม่นกว่า หนักกว่า ก็ได้เปรียบ ซึ่งผมมั่นใจในเรื่องนี้ ไม่กลัวลูกฝีมือเขาแน่นอนครับ”

“การที่ ยามีน หยุดชกมวยไปนาน ผมมั่นใจว่าเขาต้องเจอปัญหาแน่นอน เพราะผมเองเคยผ่านประสบการณ์หยุดมวยช่วงโควิดมาแล้ว ตอนกลับมาขึ้นชกไฟต์แรกรู้เลยว่ายากมากที่จะเรียกฟอร์มเดิมกลับมา ถึงแม้สมองจะพร้อม แต่ร่างกายอาจตอบสนองไม่ทัน เพราะไม่ได้สัมผัสการชกบนเวทีจริงเป็นเวลานาน”

“การเตรียมตัวของผมสำหรับไฟต์นี้จึงเน้นการยกระดับความทนทานและการรับอาวุธเป็นพิเศษ ผมถูกจับให้มาซ้อมกับ ‘นักรบ แฟร์เท็กซ์’ บ่อยครั้ง เพราะเรามีโปรแกรมขึ้นชกใกล้กัน การซ้อมกับเขาช่วยพัฒนาความแข็งแกร่งและความทนทานจากการรับอาวุธ รวมถึงได้เรียนท่าเตะขาที่เป็นจุดแข็งของเขามาใช้เพื่อชะลอการเคลื่อนไหวของยามีนในไฟต์นี้ด้วยครับ”

การที่ “ยามีน” ประกาศชัดว่าไฟต์นี้ต้องการปิดเกม “ซ่อนรัก” ให้ได้เพื่อลุ้นคว้าโบนัส 350,000 บาท กลับไปดูแลครอบครัว ทำให้ “ซ่อนรัก” มั่นใจขั้นสุดว่ารูปเกมจะต้องออกมาระอุตั้งแต่วินาทีแรกของการแข่งขัน เพราะตนก็พร้อมที่จะลุยแหลกหวังเผด็จศึกให้ได้เช่นกันหลังไม่ได้น็อกใครมานานกว่า 1 ปี

“ผมจะอาศัยความสดเป็นข้อได้เปรียบ เดินอัดใส่ยามีนตั้งแต่เสียงระฆังดัง ช่วงแรกเขาอาจยังต่อสู้และเบียดได้ แต่ผมมั่นใจว่าปลายยกเขาจะเริ่มแผ่ว เมื่อถึงจังหวะนั้นผมจะหาโอกาสปิดเกมให้ได้ทันทีครับ”

“ไฟต์นี้รับรองว่ามันแน่นอนครับ เพราะ ยามีน เพิ่งกลับมาชกในรอบปี เขาย่อมต้องการพิสูจน์ตัวเองด้วยการเอาชนะผมให้ได้ ส่วนตัวผมเองก็อยากกลับมาเก็บชัยชนะอีกครั้งเหมือนกัน และตั้งเป้าว่าจะชนะให้ได้แบบไม่ครบยก เพราะผมไม่ได้ชนะน็อกใครมานานแล้ว หวังว่าจะได้ลุ้นโบนัสกลับมาติดมืออีกครั้งครับ”