มวยสากลสมัครเล่นไทยไร้เหรียญเอเชียน ยูธ เกมส์
ทัพนักชกเยาวชนทีมชาติไทยต้องเผชิญกับความผิดหวังครั้งใหญ่ หลังการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นในมหกรรมกีฬาเอเชียนยูธเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่ประเทศบาห์เรน สิ้นสุดลงโดยที่กำปั้นไทย ไม่สามารถคว้าเหรียญรางวัลกลับบ้านได้เลยแม้แต่เหรียญเดียว
ความหวังสุดท้ายของไทยในการแข่งขันเมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 ต.ค. คือสองนักชกหนุ่มในรอบก่อนรองชนะเลิศ:
รุ่น 50 กก.: ฐิติพันธ์ คำแร่ เจ้าของเหรียญทองยุวชน–เยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทยปีล่าสุด พยายามเดินหน้าแลกหมัดกับ ซิงห์ มอยบุงคาบาม จากอินเดียอย่างเต็มที่ แต่ไม่อาจต้านทานความแข็งแกร่งและพ่ายคะแนนไป 1-4 เสียง ชวดเหรียญทองแดง อย่างน่าเสียดาย
รุ่น 66 กก.: สันติ แก้วบุญเรือง เหรียญทองแดงชิงแชมป์ประเทศไทยปี 2568 พบกับ เการิสซังการ์ เดซมุกห์ นักชกแดนภารตะอีกราย และต้องประสบกับความพ่ายแพ้ด้วย RSC ในยกที่ 3 หลังโดนพายุหมัดของคู่ชกตลอดสองยกแรก กรรมการต้องยุติการชก ทำให้สันติตกรอบ 8 คนสุดท้ายตามไป
เพิก พึ่งปัญญา สต๊าฟโค้ชทีมกำปั้นเยาวชนทีมชาติไทย ยอมรับว่าผลงานครั้งนี้เป็นเครื่องตอกย้ำถึงสิ่งที่ต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านประสบการณ์
"เด็กชุดนี้เป็นนักชกรุ่นใหม่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเตรียมเข้าแข่งขันคัดเลือกในกีฬา ยูธโอลิมปิก ในปีหน้า ซึ่งจะต้องรีบพัฒนาทักษะและประสบการณ์ของเด็กเพื่อให้ทันต่างชาติ" โค้ชเพิกกล่าว
“สิ่งที่เด็กชุดนี้ยังขาดอยู่คือ ประสบการณ์ในการชกรายการต่างประเทศ บางคนเพิ่งออกต่างประเทศครั้งแรก จึงทำให้ตื่นเต้น เด็กจะเก่งเวลาชกรายการในประเทศ แต่พอออกมาชกกับต่างประเทศบรรยากาศมันจะคนละอย่างกัน ซึ่งต้องนำไปปรับปรุงแก้ไขต่อไป”
ความพ่ายแพ้ในเวทีเอเชียครั้งนี้เป็นโจทย์ใหญ่สำหรับสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ภายใต้การบริหารงานของ นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมฯ ซึ่งมีเป้าหมายในการผลักดันและปูพื้นฐานนักชกยุวชนและเยาวชน เพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศในระดับประชาชน และพิชิต เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2028
ทั้งนี้ เอเชียนยูธเกมส์ 2025 เป็นการรวมนักกีฬากว่า 4,300 คน จาก 45 ประเทศเข้าร่วมชิงชัยใน 26 ชนิดกีฬา และยังถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัด มหกรรมกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 5 ในปี 2030 อีกด้วย
