"เพชรสุขุมวิท ต้อมทุ่งใหญ่" นักชกวัย 27 ปี จากนครศรีธรรมราช ยันสภาพร่างกายฟิตพร้อมกว่าเดิม เล็งใช้แผนโจมตีวงในดับฮอต "รุสตัม ยูนูซอฟ" ดาวรุ่งไฟแรง วัย 18 ปี เจ้าของสถิติไร้พ่าย 15 ไฟต์ตลอดการชกระดับอาชีพ ในกติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ขึ้นป้ายคู่เอกภาคอินเตอร์ของศึก ONE ลุมพินี 131 ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี ในวันศุกร์ที่ 31 ต.ค.นี้
หลังต้องห่างจากสังเวียนไปนานนับปีเพื่อพักฟื้นสภาพจิตใจจากผลงานที่ตกลงไปและรักษาอาการบาดเจ็บ “เพชรสุขุมวิท” ก็สามารถคืนฟอร์มเก่งได้ทันทีตั้งแต่การกลับมาไฟต์แรกด้วยการเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “ซิลวิอู วิเตซ” จากโรมาเนีย ในศึก ONE ลุมพินี 111 เมื่อเดือน มิ.ย. 68
อย่างไรก็ตาม ในไฟต์ล่าสุด “เพชรสุขุมวิท” ต้องสะดุดแพ้อีกครั้งหลังขึ้นทำหน้าที่มวยแทนของ “พันธ์พยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์” โดยตกเป็นฝ่ายพ่ายน็อกยก 3 ให้กับ “อัสลามจอน ออร์ติคอฟ” จากอุซเบกิสถาน ไปอย่างน่าเสียดาย ในศึก ONE ลุมพินี 114 เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวยอมรับว่าไม่สามารถออกอาวุธได้อย่างที่ใจคิดทำให้ต้องพ่ายไปในที่สุด
“ไฟต์ล่าสุดผมมาชกแทนคนอื่น แม้จะฟิตร่างกายมาดี แต่เหมือนซ้อมไม่พอ เพราะรู้โปรแกรมชกล่วงหน้าแค่ 2 สัปดาห์ ก่อนหน้านั้นผมเพิ่งชนะ ซิลวิอู มาเลยคิดว่าสภาพร่างกายยังดี หวังใช้พละกำลังเข้าสู้ แต่ภาพรวมผลงานไม่เป็นไปตามหวัง รู้สึกเหนื่อยง่าย คิดไม่ค่อยออก สุดท้ายพลาดโดนเตะเข้าท้องจนจุกลุกไม่ไหวแพ้น็อกเอาต์ไป”
“ผมยอมรับว่า อัสลามจอน เป็นนักสู้ที่เก่งมาก ทั้งเร็วและออกอาวุธได้หลากหลาย ทำให้รับมือได้ยาก ผมพลาดเก็บชัยชนะไว้ไม่ได้ กลับมาสะดุดแพ้อีกครั้ง แถมยังบาดเจ็บค่อนข้างหนัก ต้องเย็บถึง 15 เข็ม ทำให้ต้องพักยาวร่วมเดือนก่อนกลับมาซ้อมได้อีกครั้งครับ”
กลับมาครั้งนี้ นอกจากเปลี่ยนสีเสื้อผู้สนับสนุนแล้ว “เพชรสุขุมวิท” ยังเปลี่ยนสถานที่ฝึกซ้อมหวังสร้างพลังฮึดเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมา พร้อมแก้ไขสไตล์การชกให้นิ่งมากขึ้น เพราะไม่ต้องการเพลี่ยงพล้ำให้คู่ต่อสู้แบบง่าย ๆ อีกต่อไป
“ไฟต์นี้ผมซ้อมที่ค่ายมวยซุปเปอร์บอน เทรนนิงแคมป์เป็นครั้งแรก การได้อยู่ที่นี่ทำให้ใกล้ชิดกับนักสู้ระดับแถวหน้า รู้สึกฮึกเหิมอยากพัฒนาฝีมือตามไปด้วย และผมยังมีโอกาสได้ลงนวมซ้อมกับน้องโอ๋ (ฮาม่ามวยไทย) ได้เห็นทั้งข้อบกพร่องของตัวเองและได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์หลายอย่างกลับมา”
“ผมพยายามปรับปรุงการหลบหลีกอาวุธของคู่ชก เพราะเมื่ออยู่บนเวทีต้องคิดให้รอบคอบ และนำสิ่งที่ซ้อมมาใช้ให้ได้มากที่สุด ผมเป็นคนใจร้อนมาตั้งแต่เด็ก มักทำอะไรไม่ค่อยระวัง ครั้งนี้จึงตั้งใจชกให้รัดกุมมากขึ้นครับ”
กลับมารอบนี้ “เพชรสุขุมวิท” มีเวลาเตรียมตัวทำร่างกายแบบเต็มที่พร้อมเปิดหน้าแลกอาวุธสู้กับ “รุสตัม” แบบถึงใจ โดยเจ้าตัวตั้งเป้าหวนเก็บแต้มชัยให้ได้อีกครั้ง เพื่อฉลองการขึ้นชกไฟต์ที่ 10 ในรายการนี้
ด้าน “รุสตัม” ทำผลงานสุดฮอตบนเวที ONE ลุมพินี ด้วยการเก็บชัยชนะได้ 5 ไฟต์ติด ล่าสุดเขาโชว์ความพลิ้วไล่ทุบชนะคะแนนเอกฉันท์ “ดอนคิงส์ โยธารักษ์มวยไทย” ในศึก ONE ลุมพินี 123 เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา ครั้งนี้เจ้าตัวจึงมาพร้อมความมุ่งมั่นยืดสถิติไร้พ่าย และหวังทำตามฝันคว้าสัญญา ONE มาครองให้สำเร็จ
โอกาสนี้ “เพชรสุขุมวิท” ประกาศขอทุ่มสุดตัว เพื่อสร้างชื่อเป็นนักชกคนแรกที่โค่น “รุสตัม” ลงให้ได้ พร้อมหวังให้การเก็บชัยชนะครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนทำให้เส้นทางอาชีพของตนกลับมาสดใสอีกครั้ง
“ผมมองว่า รุสตัม เป็นนักชกที่พลิ้วคล้าย อัสลามจอน เพียงแต่มีลูกเล่นน้อยกว่า ผมเสียเปรียบเขาเรื่องความเร็ว ต้องใช้ความแข็งแกร่งชดเชย พร้อมปะทะแลกอาวุธกันเต็มที่”
“ไฟต์นี้ผมวางแผนใช้ลูกเข่าเล่นงาน เดินบดบี้เข้าสู้วงใน ส่วนรุสตัมจะแก้เกมมาแบบไหน คงต้องไปดูกันบนเวที ผมมองว่าไฟต์นี้อาจจบลงด้วยการตัดสินคะแนน เพราะผมจะไม่ชกแบบประมาทแน่นอน ขอเน้นกลับมาเก็บชัยชนะให้ได้ก่อน เพื่อเรียกความมั่นใจคืนมา”
“ผมไม่สนใจสถิติไร้พ่ายของ รุสตัม เป้าหมายผมมีเพียงชัยชนะ ไม่อยากเป็นผู้แพ้อีกแล้ว โดยพยายามไม่กดดันมากเกินไป แค่ขึ้นไปสู้ให้เต็มที่ก็พอ ตอนนี้มั่นใจเต็มร้อย พร้อมลุยเพื่อชัยชนะ ถ้าเอาชนะ รุสตัม ได้ เชื่อว่าเส้นทางต่อจากนี้จะกลับมาสดใสแน่นอนครับ”
