"เสือแบล็ค" เล็งปราบ "โยฮัน" กรุยทางลุยฟลายเวต
"เสือแบล็ค ท.พราน49" มวยกะเหรี่ยงสายแข็ง วัย 29 ปี จากเพชรบุรี มั่นใจเปิดตัวพิกัดใหม่รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ด้วยฟอร์มสุดเฉียบ พร้อมจัดการ "โยฮัน เอสตูปินาน" จอมบู๊สายดีด วัย 23 ปี จากโคลอมเบีย อดีตผู้ท้าชิงอันดับ 5 ของแรงกิงรุ่นนี้ให้อยู่หมัด ภายใต้กติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต ในศึก ONE Fight Night 37: โรมัน vs ซาเมต วันเสาร์ที่ 8 พ.ย.นี้ ตามเวลาประเทศไทย
“เสือแบล็ค” กู้วิกฤตจากช่วงผลงานพ่าย 3 ไฟต์ติดในรุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) กลับมาได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการเก็บชัย 2 ไฟต์รวดในพิกัด 140 ป. เริ่มจากข้ามไปบู๊คิกบ็อกซิ่ง ปล่อยอาวุธเด็ดชนะคะแนนเอกฉันท์ “แสงอาทิตย์ ลูกทรายกองดิน” ในศึก ONE ลุมพินี 114 เมื่อเดือน มิ.ย. 68 ล่าสุดกดหมัดซ้ายเรียกนับจาก “เสกสรร อ.ขวัญเมือง” ก่อนคว้าชัยไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ ในศึก ONE ลุมพินี 126 เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา เรียกความเชื่อมั่นกลับมาเต็มขีด
“ก่อนชกกับ แสงอาทิตย์ ผมรู้สึกกดดันไม่มั่นใจ จึงนั่งคิดทบทวนว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ สุดท้ายคิดว่าต้องไปต่อและทำผลงานให้ดีที่สุด วันนั้นผมรู้ว่าจะผ่านมันไปได้ และตั้งใจหักปากกาเซียนทุกสำนักให้สำเร็จ โดยไม่ได้คิดว่าจะไปเพื่อชนะ แต่ทำให้ทุกคนสนุกไปกับการชก และได้เห็นศักยภาพของผมว่าผมยังไปต่อได้ครับ
“ไฟต์กับพี่เสกสรรสำคัญมาก เพราะเขาคือตำนาน แต่ผมชนะได้ด้วยความตั้งใจและการวางแผนที่ดีกว่า วันนั้นแทบไม่เจ็บตัวและแรงไม่ตกเลย ทำให้มั่นใจว่าถ้าลดลงมา 135 ปอนด์ อาวุธจะยังหนักเหมือนเดิม”
โดยหลังจาก “เสือแบล็ค” ได้ทดสอบสมรรถภาพร่างกายของตัวเองมาแล้วทั้งในรุ่นแบนตัมเวตและ 140 ป. เขาก็ค้นพบว่าพร้อมขยับลงสู้ในรุ่นฟลายเวตซึ่งเป็นพิกัดที่เขารู้สึกว่าเหมาะสำหรับตัวเองมากที่สุดในปัจจุบัน โดยตั้งเป้าที่จะตะลุยกรุยทางในพิกัดนี้ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
จริง ๆ ผมอยากลงมาชกในพิกัด 135 ป. มานานแล้ว แต่กลัวทำน้ำหนักไม่ได้ จนตอนนี้มีนักโภชนาการและทีมวิทยาศาสตร์การกีฬาช่วยดูแล ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก ผมมองว่าช่วงนี้ถือเป็นช่วงพีกสุดในอาชีพแล้ว อยากไต่ขึ้นไปอยู่ในแรงกิงรุ่นนี้ และถ้าเป็นไปได้ก็อยากไปให้ถึงแชมป์ครับ”
กลับมารอบนี้ “เสือแบล็ค” ที่กำลังมั่นใจเต็มร้อย วางเป้าหมายชัดเจนขอเก็บชัย 3 ไฟต์ติดให้ได้ โดยมั่นใจว่าร่างกายพร้อมสู้รุ่นฟลายเวตเต็มพิกัด
นอกจากนั้น “เสือแบล็ค” ยังเผยเขาว่าไม่ได้เพียงศึกษาคู่ชกมาเป็นอย่างดีเท่านั้น แต่ยังเคยลงนวมซ้อมกับ “โยฮัน” มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งช่วยให้เขาพอจะรู้ทางจอมดีดรายนี้พอสมควร และมั่นใจว่ามีแผนเด็ดมารับมือไว้เรียบร้อยเพื่อประเดิมชัยแรกในรุ่นน้ำหนักใหม่ให้ได้
“ไฟต์นี้ผมต้องเจอกับ โยฮัน ในรุ่น 135 ป. แต่ไม่ได้กังวลอะไร เพราะเคยผ่านนักมวยที่แข็งแกร่งกว่านี้มาแล้วในรุ่น 145 ป. ถึงอย่างนั้นก็จะไม่ประมาทแน่นอน ผมเคยซ้อมกับเขามาแล้วที่มวยไทยอะคาเดมี เขาเป็นมวยที่ออกอาวุธเร็ว และเคยเตะก้านคอผมได้หลายครั้ง”
“โยฮัน อาจจะคิดว่าผมช้ากว่าหรือโดนน็อกง่าย แต่คนที่น็อกผมได้คือระดับยอดมวย ทั้ง กุหลาบดำ และ เคียมรัน นาบาติ เบอร์หนึ่งของรัสเซีย ซึ่งความคมและพลังหมัดของพวกเขาไม่เหมือนนักมวยทั่วไปแน่นอนครับ”
“ผมรู้ดีว่า โยฮัน มีความเร็วเป็นจุดเด่น แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมเพราะเคยผ่านนักชกต่างชาติมาหลายสไตล์แล้ว ทุกอย่างอยู่ที่การฝึกซ้อมและการแก้ทางว่าจะรับมือกับคู่ชกแบบนี้ได้ดีแค่ไหน”
“ไฟต์นี้เป็นครั้งแรกที่ผมชกในรุ่น 135 ปอนด์ ทุกคนอาจได้เห็นสไตล์การชกแบบใหม่ ๆ อยากให้รอดูกันว่าผมจะมาในรูปแบบมวยฝีมือหรือมวยบู๊ ส่วนที่ โยฮัน พูดว่าผม ‘หวานเจี๊ยบ’ ก็อาจจะจริง เพราะผมเป็นคนเพชรบุรี เมืองขนมหม้อแกงที่หวานมาก แต่ระวังจะหวานติดคอนะครับ!”
