"นิโค คาร์ริลโล" จอมบู๊จากสกอตแลนด์ พร้อมป้องกันตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 4 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) ตั้งเป้าถล่มน็อก "ลุค ลิสซีย์" คู่ชกขาลุยจากสหรัฐอเมริกา ในการสู้กันภายใต้กติกามวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ในศึก ONE Fight Night 37: โรมัน vs ซาเมต วันเสาร์ที่ 8 พ.ย.นี้
หลังจากที่ “นิโค” ต้องอกหักพลาดคว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) เฉพาะกาล มาครอง ด้วยการพ่ายน็อกยกแรกให้กับ “นาบิล อานาน” ในศึก ONE 170 เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ไฟต์ล่าสุดในศึก ONE Fight Night 30 เมื่อเดือน เม.ย. เขาจึงตัดสินใจขยับน้ำหนักขึ้นมาชกในรุ่นเฟเธอร์เวต เป็นครั้งแรกบนเวที ONE (ใหญ่) โดยถูกประกบให้มาพิสูจน์ฝีมือกับมวยเก๋าอย่าง “สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง”
เกมการชกในวันนั้น “นิโค” โชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงเกินต้าน หลังเดินหน้าขนอาวุธหนักไล่ถล่ม “สิทธิชัย” ตั้งแต่ยกแรกก่อนจะกดน็อกไปได้ในยกที่ 2 พร้อมทะยานขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 4 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ทันที ซึ่ง “นิโค” ยอมรับว่าเขารู้สึกได้ถึงพัฒนาการของตนเองในทุกด้านอย่างชัดเจนในการขยับมาชกรุ่นนี้
“ผมรู้สึกว่าผมเกิดมาเพื่อรุ่นเฟเธอร์เวตจริง ๆ ผมแข็งแกร่งและเร็วขึ้นมาก เมื่อก่อนตอนชกในรุ่นแบนตัมเวตก็ว่าผมเร็วแล้วนะ แต่ตอนนี้ยิ่งเร็วขึ้นกว่าเดิมอีก”
โดยไฟต์นี้ “นิโค” ที่ได้ชื่อว่ามีอัตราการปิดเกมคู่ต่อสู้แบบไม่ครบยกเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์จากชัยชนะทั้งหมด 5 ไฟต์ในรายการนี้ ก็มั่นใจว่าจะใช้พลังน็อกของตนอัด “ลุค” ลงไปกองให้แฟนมวยทั่วโลกต้องตกตะลึง เพื่อรักษาอันดับในแรงกิงรุ่นนี้ต่อไปอย่างเหนียวแน่น
“พละกำลังของผมไม่ได้ลดลงจากไฟต์ที่แล้วเลย แถมยังเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ วันเสาร์นี้ผมจะลุยใส่ ลุค ด้วยอาวุธและเทคนิคที่ขัดเกลามาอย่างดี ผมตื่นเต้นมากที่ทุกคนจะได้เห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้นบนเวทีครับ”
“ผมมั่นใจว่าแค่ระฆังยกแรกดังขึ้น ทุกคนจะเห็นเองว่าผมซ้อมอะไรมาบ้าง เพราะผมจะงัดของดีที่เตรียมไว้มาโชว์ตั้งแต่วินาทีแรกเลยครับ”
“ผมมองหาโอกาสน็อกคู่ต่อสู้อยู่เสมอ และไฟต์นี้ผมจะไม่ยอมเสียสถิติชนะไม่ครบยก 100 เปอร์เซ็นต์ของผมใน ONE ไปเป็นอันขาด”
ด้าน “ลุค” อดีตเจ้าของตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 5 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ความมั่นใจกำลังมาเต็มจากผลงานไฟต์ล่าสุดในศึก ONE Fight Night 27 เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา จากการงัดฟอร์มดุชนะน็อก “โคดี เจโรม” จากแคนาดา ไปได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่ยกแรก
“ลุค” ทราบดีว่าจะต้องเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งและอาวุธอันทรงพลังของ “นิโค” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ซึ่งความเป็นความท้าทายสูงสุดในไฟต์นี้ อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่าไม่กังวลใจในเรื่องนี้แม้แต่น้อย
“มันคงแปลกถ้าคุณสู้ใน ONE แล้วไม่แข็งแกร่ง และการที่ นิโค มีอาวุธทรงพลังก็เป็นมาตรฐานของนักสู้มืออาชีพอยู่แล้ว ผมแค่ต้องโฟกัสไปที่การฝึกซ้อมเท่านั้นก็พอ”
นอกจากนี้ “ลุค” ยังมั่นใจว่าความหลากหลายของอาวุธที่เหนือกว่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตนสามารถสยบความแกร่งของ “นิโค” และชิงตำแหน่งในแรงกิงกลับมาครองได้อีกครั้ง
“เห็นได้ชัดว่าช่วงชกของผมได้เปรียบ และสามารถใช้อาวุธได้ครบตามศาสตร์แห่งอาวุธทั้ง 8 ผมไม่ได้หมายความว่าเขาทำไม่ได้ แต่ผมมีอาวุธหลากหลายกว่าแน่นอน นี่จะเป็นไฟต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม และชัยชนะครั้งนี้จะพาผมกลับขึ้นสู่แรงกิง พร้อมทำให้ชื่อของผมโด่งดังยิ่งกว่าเดิม”
“ผมเชื่อว่าเมื่อไฟต์นี้จบลง ทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ผมคือหนึ่งในนักชกที่เก่งที่สุดในยุคนี้’ นั่นคือสิ่งที่ผมตั้งใจไว้ครับ”
