"ชาติพยัคฆ์" เลิกใจร้อน อัปเกรดบู๊ "ซามันดาร์"
"ชาติพยัคฆ์ ศักดิ์สตูล" นักชกเลือดเดือดจากสตูล ถอดบทเรียนความใจร้อน พร้อมกลับมาบู๊ใหม่ในเวอร์ชันที่รัดกุมกว่าเดิมในการพบกับ "ซามันดาร์ คาซานอฟ" คู่ชกป้ายแดงจากอุซเบกิสถาน ในกติกามวยไทย รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.) ขึ้นป้ายคู่เอกภาคอินเตอร์ของศึก ONE ลุมพินี 133 ในวันศุกร์ที่ 14 พ.ย.นี้
“ชาติพยัคฆ์” คือหนึ่งในนักชกไทยที่เคยถูกจับตาว่าอาจจะได้รับสัญญา ONE มาครอง หลังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นจากการคว้าชัยชนะ 7 ไฟต์รวด ซึ่งไฟต์ล่าสุดเขาถูกประกบให้มาวัดดีกรีความร้อนแรงกับ “รามาดาน ออนดาช” คู่ชกหมัดโหดจากเลบานอน ที่ยังไม่เคยแพ้ใครบนเวทีแห่งนี้เช่นกันในศึก ONE ลุมพินี 114 เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา
เกมการชกคู่นี้เริ่มต้นอย่างสุดระทึกเมื่อต่างฝ่ายต่างผลัดกันกดหมัดร่วงลงไปกองคนละ 1 นับในยกแรก ก่อนในยกที่ 2 “ชาติพยัคฆ์” ซึ่งกำลังอยู่ในอาการเลือดขึ้นหน้าจะเดินแลกกับมวยหมัดอย่าง “รามาดาน” จนพลาดถูกอัดน็อกไปอย่างน่าเสียดาย และกลายเป็นบทเรียนราคาแพงที่เขายังจำไม่ลืมจนถึงวันนี้
“ไฟต์กับ รามาดาน ผมตั้งใจเดินบี้ให้เขาถอย แต่เขากล้าบวกและตอบโต้จนผมพลาดโดนนับตั้งแต่ต้นเกม ผมตั้งสติกลับมาได้ช่วงท้ายยกแรก แต่เวลาหมดไปก่อน ถ้ายังมีเวลาอีกนิดผมมั่นใจว่าจะปิดเกมได้ ยกสองผมจึงเดินแลกเพื่อเร่งปิดเกม แต่พลาดโดนนับอีกครั้งจนสติหลุด ป้องกันตัวไม่ดี และสุดท้ายโดนน็อกไปครับ”
“ถ้าผมไม่ใจร้อนเข้าไปแลกหมัดในยกสอง แต่ใช้ความเป็นมวยหาจังหวะเข้าทำอย่างมีชั้นเชิงกว่านี้ ผมน่าจะชนะได้ ถือเป็นบทเรียนสำคัญว่าผมต้องชกอย่างมีสติและรัดกุมยิ่งขึ้น ผมอยากแก้มือกับรามาดาน อีกครั้ง แต่ต้องทำฟอร์มและคว้าสัญญา ONE มาก่อน เพราะตอนนี้เหมือนเราอยู่คนละระดับกันแล้วครับ”
“ชาติพยัคฆ์” ได้โอกาสกลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง โดยจะต้องทำหน้าที่รับน้อง “ซามันดาร์” คู่ชกดีกรีแชมป์มวยไทยเยาวชนชิงแชมป์โลก IFMA ที่เคยผ่านประสบการณ์แข่งขันมวยไทย 3 ยกบนเวทีราชดำเนินมาก่อน และปัจจุบันถือครองสถิติชนะมากถึง 15 จาก 18 ไฟต์ในระดับอาชีพ
หลังได้รับบทเรียนเรื่องความใจร้อนจนถึงขั้นต้องเสียสถิติไร้พ่ายในไฟต์ล่าสุด กลับมาครั้งนี้ “ชาติพยัคฆ์” การันตีจะไม่มีความผิดพลาดแบบเดิมเกิดขึ้นอีก โดยพร้อมโชว์สไตล์การบู๊ในเวอร์ชันใหม่หวังคว้าชัยให้ได้อย่างน่าประทับใจ และตั้งหลักใหม่เพื่อล่าสัญญา ONE ต่อไป
ผมเคยดู ซามันดาร์ ชกที่ราชดำเนิน เขาเป็นมวยฝีมือ รอจังหวะตอบโต้มากกว่าจะเดินบุก
อาวุธหลักคือหมัดกับเตะซึ่งดูแล้วไม่หนักมาก แต่เขามีลูกแปลก ๆ ที่มักออกมาแบบคาดไม่ถึง จึงต้องระวังเป็นพิเศษ”
“ผมไม่กลัวมวยทรงถอยแบบนี้ ผมจะเดินบี้และใช้อาวุธหนักที่เตรียมมา ครั้งนี้เขาอาจจะยังไม่เคยชินกับการชกนวมเล็ก ระบบป้องตัวของเขาน่าจะมีปัญหา ผมมั่นใจว่าถ้าทำเกมกดดันต่อเนื่อง ความหนักของผมมีโอกาสทำให้เขารับไม่ไหวจนร่วงได้ครับ”
“ไฟต์นี้ผมจะมาบู๊เหมือนเดิมแน่นอน แต่จะไม่ประมาทเปิดการ์ดเข้าไปแลกอีกแล้ว เพราะไม่อยากพลาดเหมือนไฟต์ที่ผ่านมา จะตั้งใจชกอย่างมีสติ ใจเย็น และเน้นการป้องกันตัวมากขึ้น ผมตั้งใจจะทำฟอร์มให้ดีและเก็บชัยชนะให้ได้ เพื่อล่าสัญญา ONE ต่อไปครับ”
อีกหนึ่งแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้ “ชาติพยัคฆ์” พร้อมทุ่มสุดตัวในไฟต์นี้ คือการที่เขาจะได้ขึ้นชกพร้อมกับน้องชายแท้ ๆ “พยัคฆ์ ศักดิ์สตูล” ซึ่งมีดีกรีเป็นอดีตแชมป์เวทีมวยช่อง 7 สี รุ่น 108 ป. โดยจะเปิดตัวพบกับ “เด็ด ส.โชคมีชัย” ในกติกามวยไทย รุ่นอะตอมเวต (105-115 ป.) ซึ่งเขาวาดฝันหวังควงน้องชายเก็บชัยชนะพร้อมกัน เพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับครอบครัวที่เฝ้าติดตามชมอยู่ที่ จ.สตูล
“น้องชายผมอยากชกในศึก ONE ลุมพินีมานานแล้ว พอรู้ว่าจะได้ขึ้นชกพร้อมกัน พวกเราดีใจกันมากครับ ไฟต์นี้ผมเป็นคนช่วยซ้อม ติวเข้มอาวุธ และปรับสไตล์การชกแบบนวมเล็กให้เขาเต็มที่ ผมตั้งใจจะเก็บชัยชนะให้ได้ก่อน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้น้องที่จะขึ้นชกในคู่ถัดไปครับ”
“พยัคฆ์ เป็นมวยบู๊อาวุธหนักแรงเหมือนกับผม ทรงมวยเราแทบจะคล้ายกันเลยก็ว่าได้ ผมมั่นใจว่าน้องชายจะชนะแน่นอน เพราะเขาตั้งใจซ้อมมากจริง ๆ ถ้าวันศุกร์นี้เราสองพี่น้องสามารถเก็บชัยชนะได้พร้อมกันและได้โบนัสพร้อมกันด้วย ผมเชื่อว่าครอบครัวของเราจะมีความสุขที่สุดเลยครับ”
