"เสือคิม" เคารพหัวใจเกินร้อย "เจก"

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน 2568
15
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share

"เสือคิม สจ.โต้งปราจีน" กำปั้นจอมดุ วัย 30 ปี จากจันทบุรี ยอมรับหัวใจนักสู้ของ "เจก พีค็อก" มวยใจเด็ด วัย 32 ปี ตัวแทนสหราชอาณาจักร-แคนาดา ที่แม้มีแขนซ้ายที่สมบูรณ์เพียงข้างเดียว แต่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ พร้อมแง้มเป้าหมายต่อไปอาจขอลองลดพิกัดไปหาความท้าทายใหม่ในรุ่นฟลายเวต (125-135 ป.)

ในศึก ONE 173 ที่จัดการแข่งขันขึ้น ณ สนามอาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา “เสือคิม” ที่ฟอร์มกำลังแรงด้วยการชนะ 5 ไฟต์ติด ต้องพบกับ “เจก” คู่ชกดีกรีแชมป์ Road to ONE แคนาดา ที่ผ่านมา 2 ไฟต์ในรายการนี้ยังแพ้ใครไม่เป็น

แม้ “เสือคิม” จะถูกมองว่าได้เปรียบเรื่องสภาพร่างกายที่สมบูรณ์กว่า แต่ไฟต์นี้เขาต้องเจองานยากกว่าที่คิด เมื่อ “เจก” สร้างเซอร์ไพรส์แลกอาวุธสู้ได้อย่างดุดันทำเอา “เสือคิม” บอบช้ำไปไม่น้อย ก่อนเขาจะอาศัยความเฉียบคมกดฮุกซ้ายเข้าเต็มคาง “เจก” ลงไปนอนไปต่อไม่ไหว เอาชนะชนะทีเคโอได้ในยกสาม พร้อมประเดิมรับโบนัส 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1.6 ล้านบาท) ก้อนแรกบนเวทีใหญ่ไปครอง

“ยกแรกผมตกใจเลยครับ ตอนโดนอาวุธของเจกเข้าไป รู้สึกได้ทันทีว่าทั้งหนักและเจ็บ ต้องถอยตั้งหลักอยู่พักใหญ่กว่าจะเริ่มปรับจังหวะได้ พอเข้ายกสองผมตัดสินใจเดินบุกมากขึ้น เพราะถ้าถอยออกห่างจะโดนเขาเตะสวน แต่ถ้าเข้าวงใน ผมยังได้เปรียบเรื่องหมัดที่สามารถออกได้ต่อเนื่อง จนมาถึงยกสาม ผมปล่อยฮุกซ้ายออกไปแบบไม่คิดว่าจะน็อกได้ แต่พอจังหวะมันลงตัว ทุกอย่างก็เป็นอย่างที่เห็น”

“เมื่อรู้ว่าชนะน็อกได้ ผมโล่งใจมาก เพราะจริง ๆ ผมเองก็มีโอกาสที่จะเป็นฝ่ายแพ้คะแนนเหมือนกัน ตอนเห็น เจก ล้มลง ผมดีใจมากเพราะคิดว่าน่าจะเอาชนะแบบชัดเจนได้ครับ”

แม้จะเก็บชัยชนะเหนือ “เจก” ได้อย่างสวยงาม แต่ “เสือคิม” ยังหนีไม่พ้นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของแฟนมวยบางกลุ่มที่มองว่า เขาแค่เอาชนะนักชกที่ร่างกายไม่สมบูรณ์ได้เท่านั้น งานนี้ “เสือคิม” ได้ออกมาตอบโต้คำพูดดังกล่าว พร้อมยกย่อง “เจก” สมควรได้รับการยกย่องว่าเป็นนักสู้โดยสมบูรณ์แม้คนอื่นจะมองว่าเขาไม่สมบูรณ์ก็ตาม

“ผมเข้าใจดีว่าผลการแข่งขันจะออกมายังไง ก็ย่อมมีคนบางส่วนที่ตีความผิด ไม่เข้าใจแง่มุมของการแข่งขันกีฬา คิดว่าผมอยากชกกับเจก เพราะต้องการชัยชนะ แต่จริง ๆ ผมรู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ และเราก็ต่างสู้กันเต็มที่แล้ว”

“สิ่งที่ผมคิดว่าอันตรายที่สุดของ เจก คือการออกอาวุธได้เร็ว โดยเฉพาะลูกเตะสูง ส่วนแขนข้างที่ไม่สมบูรณ์ก็ถือเป็นศอกที่น่ากลัว ทำให้ตอนนี้ผมยังตาเขียวอยู่เลย ”

“ผมเคารพในตัวของ เจก มาก แม้เขาจะมีแขนปกติเพียงข้างเดียว แต่ยังสู้บนเส้นทางระดับโลกโดยไม่เคยกลัวคนที่มีสองมือ เชื่อว่าเขาต้องผ่านอะไรมาหนักกว่าจะมาถึงตรงนี้ และซ้อมหนักเป็นสองเท่า แสดงว่าเขารักมวยไทยจริง ๆ ถึงพัฒนาฝีมือมาได้ขนาดนี้ ผมดีใจที่เราได้สู้กันเต็มที่ด้วยความเป็นมืออาชีพครับ”

ตอนนี้ “เสือคิม” กำลังอยู่ในฟอร์มเข้าฝักสุดขีด เก็บชัยได้ 6 ไฟต์ติดในรายการของ ONE โดยเผยเป้าหมายต่อไปว่า อยากลองลดพิกัดลงไปโชว์ฝีมือในรุ่นฟลายเวต เพราะคิดว่าเหมาะสมกับตนมากที่สุด นอกจากนี้ เจ้าตัวยังไม่ลืมขอบคุณบรรดากองเชียร์ที่ยืนอยู่เคียงข้างกันมาตลอด จนทำให้ตัวเองก้าวมายืนตรงจุดนี้ได้

“ตอนนี้ผมยังไม่มีเป้าหมายอยากเจอใครเป็นพิเศษ แต่อยากลองลดน้ำหนักไปชกในรุ่น 135 ป. เพราะตั้งแต่มาชกในรุ่น 145 ป. เจอแต่งานหนัก โดยเฉพาะไฟต์ที่เจอกับ ซาเฟอร์ ซึ่งแรงปะทะหนักมาก แต่ยังยืนได้เพราะซ้อมมาดี เลยอยากลองลดรุ่นดู แต่ยังไม่รับปากว่าจะทำได้หรือเปล่าครับ”

“สุดท้ายผมอยากขอบคุณแฟนคลับทุกคนมากครับ ตั้งแต่วันที่ผมกลับมาชกแล้วแพ้น็อกเอาต์ แทบไม่มีใครต่อว่าผมเลย ทุกคนคอยให้กำลังใจอยากให้ผมลุกขึ้นสู้ใหม่ การที่ผมมายืนอยู่ตรงนี้ได้ เพราะทุกคนคือแรงผลักดันสำคัญจริง ๆ ครับ”

 

 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด