บิ๊กพรีเมียร์ยันไร้แผนจัดบอลลีกในต่างแดน

ในเดือนที่ผ่านมา สหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี และสเปน ได้เปิดเผยแผนการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกสูงสุดในออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา และกำลังขออนุญาตจาก ฟีฟ่า และ ยูฟ่า

หากประสบความสำเร็จ บาร์เซโลน่า และ บียาร์เรอัล สโมสรลา ลีกา จะพบกันที่ไมอามีในเดือนธันวาคม ซึ่งจะเป็นการแข่งขันฟุตบอลลีกยุโรปครั้งแรกที่จัดขึ้นในต่างแดน

หากได้รับอนุญาต เอซี มิลาน และ โคโม่ สโมสรเซเรีย อา จะพบกันที่ เพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย ในเดือนกุมภาพันธ์

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการจัดการแข่งขันพิเศษอื่นๆ เช่น อิตาเลียน ซูเปอร์ คัพ และสแปนิช ซูเปอร์ คัพ ในต่างประเทศมาแล้ว

แนวคิดที่จะให้พรีเมียร์ลีกเล่นแบบพิเศษนอกอังกฤษ หรือ "เกมที่ 39" ได้รับการหยิบยกขึ้นมาในปี 2008 แต่แผนการดังกล่าวถูกระงับไปหลังจากถูกวิจารณ์หนักจากแฟนๆ และสื่อ

แม้ว่า ริชาร์ด สคูดามอร์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรีเมียร์ลีก จะเคยกล่าวไว้เมื่อ 10 กว่าปีก่อนว่าสโมสรต่างๆ ให้ความสนใจกับแนวคิดนี้ แต่ มาสเตอร์ส กลับลดความสำคัญของสถานการณ์ดังกล่าวลง

"ผมไม่คิดว่ามันจะเปลี่ยนมุมมองของพรีเมียร์ลีกเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย เราไม่มีแผนที่จะไปแข่งขันในต่างประเทศ" เขากล่าว

"มันไม่ใกล้เคียงกับรายการที่ผมต้องตอบ และไม่ใช่เรื่องที่ต้องถกเถียงกันบนโต๊ะของเรา"

มีสโมสรที่เป็นเจ้าของโดยสหรัฐอเมริกา 11 ทีมในลีกสูงสุด ซึ่งใกล้เคียงกับเสียงข้างมากสองในสามของ 14 สโมสร ที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงกฎของพรีเมียร์ลีก

ปีที่แล้ว ทอม เวอร์เนอร์ ประธานสโมสร ลิเวอร์พูล ให้สัมภาษณ์กับไฟแนนเชียล ไทม์ส ว่าเขาหวังที่จะได้เห็นการแข่งขันพรีเมียร์ลีกในนิวยอร์ก, โตเกียว, ลอสแอนเจลิส, ริยาด และ ริโอเดอจาเนโร ซึ่งสร้างความกังวลให้กับแฟนบอลบางส่วนเกี่ยวกับการพยายามนำแนวคิด "เกมที่ 39" กลับมาใช้อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม บิล โฟลี่ย์ เจ้าของสโมสร บอร์นมัธ ชาวอเมริกัน กล่าวว่าเขาไม่สนับสนุนการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกในต่างประเทศ

มาสเตอร์ส เสริมว่า "สิ่งแรกที่ต้องพูดถึงคือ มันยังไม่เกิดขึ้น คุณต้องมีสิ่งต่างๆ มากมายเกิดขึ้น"

"พรีเมียร์ลีกเคยลองเชิงกับเรื่องนี้เมื่อกว่าทศวรรษก่อน และเหตุผลก็คือการขยายลีกไประดับนานาชาติ และเราสามารถทำสิ่งนี้ได้ผ่านช่องทางต่างๆ เช่นช่องทางดิจิทัล, พันธมิตรการถ่ายทอดสด และแนวคิดต่างๆ เช่น ซัมเมอร์ส ซีรี่ส์ ในสหรัฐอเมริกา

"ความจำเป็นที่ขับเคลื่อนแนวคิดนี้ได้จางหายไปแล้ว"