โอเว่นสวนตำนานผีป้องแบ็กทรี-อาโมริม

    อดีตดาวดังของปีศาจแดงหลายคน รวมถึง แกรี่ เนวิลล์ และ เวย์น รูนี่ย์ ต่างวิจารณ์ความดื้อรั้นของอาโมริมในการใช้ระบบ 3-4-2-1 ซึ่งทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด กระนั้น โอเว่น ยืนยันว่าปัญหาของสโมสรนั้นลึกซึ้งกว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ของกุนซือชาวโปรตุเกส ซึ่งกำลังเผชิญแรงกดดันในช่วงใกล้ครบรอบปีแรกที่เข้ามาคุมทีม

    "พวกเขาเปลี่ยนผู้จัดการทีมหลายครั้งนับตั้งแต่เฟอร์กี้ออกจากทีม" โอเว่นกล่าว "จากนั้นพวกเขาก็โทษนักเตะ ใช้เงินหลายพันล้านเพื่อนักเตะ และคว้านักเตะที่ดีที่สุดในโลกมาได้ แต่สุดท้ายสโมสรกลับถูกมองว่าเป็นเหมือนสุสานของนักเตะในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา"

    "ต่อมาก็เป็นเรื่องคนที่ซื้อนักเตะมา ทุกคนจึงอยากกำจัดพวกเขาออกไป จากนั้นก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหาร ดังนั้น คณะกรรมการบริหารจึงถูกสับเปลี่ยนเมื่อ เซอร์ จิม แร็ทคลิฟฟ์ เข้ามาเกี่ยวข้อง"

    "จากนั้นก็เป็นความผิดของสิ่งอำนวยความสะดวก พวกเขาจึงต้องการปรับปรุงสนามฝึกซ้อมและวางแผนสร้างสนามกีฬาแห่งใหม่"

    "จากนั้นก็เป็นเรื่องของทีมงาน ทีมงานเบื้องหลังครึ่งหนึ่ง นักกายภาพบำบัด แพทย์ แม่บ้านโรงอาหาร ทุกอย่างถูกทำความสะอาดหมดจดและเริ่มต้นใหม่ที่นั่น"

    "ประเด็นล่าสุดคือเป็นเพราะพวกเขาใช้ระบบกองหลังสาม ถ้าผมจำไม่ผิด ผมเคยดู เอริค เทน ฮาก เล่นกองหลัง 4 เมื่อประมาณปีที่แล้ว และมันเป็นฟุตบอลที่แย่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นจากทีมแมนฯ ยูไนเต็ด"

    "ทีมที่ยอดเยี่ยมบางทีมในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ใช้ระบบกองหลังสาม ผมไม่ได้บอกว่า นี่คือแผนการเล่นที่ผมชอบเลย และผมไม่ได้บอกว่า อาโมริมทำถูกต้องแล้วที่ยึดมั่นในความเชื่อของเขาในระบบนั้น"

    "แต่ผมไม่คิดว่า ปัญหาทั้งหมดของยูไนเต็ดในตอนนี้เป็นเพราะพวกเขาใช้ระบบกองหลังสาม"

    "มันน่าอายถ้าคุณจะบอกว่าสาเหตุหลักของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำคือเพราะพวกเขาใช้ระบบกองหลังสาม ผมหมายถึงว่าจริงๆ แล้วมันไม่ใช่แบบนั้น พวกเขาอาจกลับไปใช้กองหลัง 4 คนและเล่นได้แย่เหมือนสมัยคุมทีมเทน ฮาก เสียงตะโกนก็จะดังไม่แพ้กัน"

    โอเว่นให้สัมภาษณ์ว่า เขาเข้าใจความกังวลของอาโมริมที่ว่า คำวิจารณ์เชิงลบจากนักวิจารณ์เกี่ยวกับปรัชญาของตนเองอาจส่งผลกระทบต่อทีมแมนฯ ยูไนเต็ด

    "ผมเชื่อแบบนั้นเลย" เขากล่าวเสริม "นักเตะไม่ได้ถูกปิดกั้นจากทุกสิ่งทุกอย่าง พวกเขาขับรถไปซ้อม เปิดวิทยุ พวกเขานั่งอยู่ที่บ้านในเลานจ์พร้อมเปิดทีวี พวกเขาอ่านโซเชียลมีเดีย พวกเขาสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ ถ้าคุณสนใจฟุตบอล คุณจะหนีไม่พ้นสิ่งที่ผู้คนคิดและพูดถึงมัน"

    "ไม่ว่านักฟุตบอลควรจะถูกโน้มน้าวด้วยคำวิจารณ์เหล่านั้นหรือถูกอิทธิพลจากคำวิจารณ์เหล่านั้น นั่นเป็นอีกประเด็นหนึ่ง แต่ผมมั่นใจว่าผู้คนจะดูและฟังคนที่พวกเขาน่าจะเคารพและคิดว่าเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่เด็ก พวกเขาจะรับฟังความคิดเห็นเหล่านั้น"

    "ถ้าพวกเขาพูดอะไรบางอย่าง มันอาจผุดขึ้นมาในหัวพวกเขา และพวกเขาอาจสงสัยว่าผู้จัดการทีมกำลังทำสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ พวกเขาอาจมีความคิดเป็นของตัวเอง แต่นั่นไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่"

    "สิ่งนั้นจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง มันไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย แต่ผมคิดว่านี่เป็นประเด็นสำคัญที่อาโมริมควรพูดถึง"

    โอเว่นเชื่อว่าเป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่ยูไนเต็ดจะกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง แต่เตือนว่าอาโมริมต้องให้เหตุผลกับแฟนๆ ที่จะหวังว่า เขาจะเป็นคนที่นำความรุ่งโรจน์กลับมาได้

    "แฟนๆ ยูไนเต็ดจะอดทนถ้าพวกเขามองเห็นอะไรบางอย่าง" เขากล่าว "ผมไม่คิดว่าจะมีใครคาดหวังให้พวกเขาเปลี่ยนจากสิ่งที่พวกเขาเป็นมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมาไปสู่การคว้าแชมป์ลีกแบบฉับพลัน"

    "กองเชียร์แค่อยากเห็นแผนการเล็กๆ น้อยๆ แม้พ่ายแพ้ พวกเขาต้องการเห็นความก้าวหน้า บางอย่างที่พวกเขาสามารถยึดเหนี่ยวได้"

    "ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่แฟนๆ แมนฯ ยูไนเต็ดกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ – ความหวังใหม่กับผู้จัดการทีมคนใหม่ อาโมริมไม่ได้สร้างผลงานที่ดี และไม่ได้ทำให้พวกเขาคิดว่าสิ่งต่างๆ อาจจะดีขึ้นอย่างมากในอนาคต และนั่นคือปัญหา"

    "นักวิจารณ์และแฟนบอลก็วนเวียนกันไปมา เมื่อมองดูสิ่งที่ผิดพลาดกับแมนฯ ยูไนเต็ดตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผู้จัดการทีมต่างหากที่ถูกตำหนิ"

    "โปรเจกต์เหล่านี้เกิดขึ้นกับทีมใหญ่ๆ เสมอ มันเกิดขึ้นกับลิเวอร์พูลในยุค 90 มันเกิดขึ้นเล็กน้อยกับอาร์เซน่อลหลังจากที่เวนเกอร์ออกไป โดยพยายามหาผู้จัดการทีมที่ใช่ ผู้เล่นที่ใช่ และแนวทางแก้ไขที่ถูกต้อง”

    "แมนฯ ยูไนเต็ดใช้เวลาสักพักแล้ว ถึงแม้ตอนนี้ยังไม่มีวี่แววว่าพวกเขาจะทำได้ แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็จะลงตัว อาจจะ 2 ปี 4 ปี 6 ปี หรือแม้กระทั่ง 10 ปี แต่ทุกคนรู้ดีว่าแมนฯ ยูไนเต็ดจะกลับมาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง"

    "พวกเขาใหญ่โต ร่ำรวย และเก่งกาจเกินกว่าจะไม่ทำแบบนั้น มันเป็นแค่คำถามว่าเมื่อไหร่พวกเขาจะทำได้ดี"