เอฟเอจวกเจ้าป่าพฤติกรรมแย่ซ้ำซาก

ทั้งสองสโมสรถูกตั้งข้อหา "ไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของผู้เล่นได้" และถูกปรับเงิน โดย ฟอเรสต์ ถูกปรับในเบื้องต้น 125,000 ปอนด์ ขณะที่ เชลซี โดนปรับ 40,000 ปอนด์ อย่างไรก็ตาม ทัพ "เจ้าป่า" ได้ยื่นอุทธรณ์ และคณะกรรมการได้ลดค่าปรับลงเหลือ 112,000 ปอนด์ หลังจากการไต่สวนเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว

เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 6 ในรอบเพียง 2 ปี 8 เดือน ที่ ฟอเรสต์ มีปัญหาด้านพฤติกรรมในสนาม โดยก่อนหน้านี้พวกเขาเคยถูกปรับจากเหตุการณ์กับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ และ คริสตัล พาเลซ ในปี 2022, สองครั้งกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ทั้งในศึกคาราบาวคัพและพรีเมียร์ลีกปี 2023 และครั้งล่าสุดกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งส่งผลให้โดนปรับอีก 75,000 ปอนด์

แม้ เอฟเอ จะระบุว่า ฟอเรสต์ มีบทบาทน้อยกว่า เชลซี ในเหตุการณ์ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่พฤติกรรมของสโมสรก็ยังสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

"เรายอมรับว่าบทบาทของพวกเขาในเหตุการณ์นี้มีน้อยกว่า แต่ก็ยังมีส่วนทำให้เกิดภาพที่ไม่เหมาะสม" เอฟเอ ระบุในแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษร

"ประวัติด้านพฤติกรรมของฟอเรสต์ในข้อหา E20 นั้นแย่ลงเรื่อยๆ และดูเหมือนว่าสโมสรไม่ได้ทำอะไรมากพอที่จะจัดการกับปัญหานี้"

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมกราคม 2023 หลังเกมที่ ฟอเรสต์ ดวลจุดโทษเอาชนะ วูล์ฟส์ ในรอบก่อนรองชนะเลิศศึกคาราบาวคัพ เอฟเอ ก็เคยออกมาวิจารณ์เช่นกัน เมื่อ มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์ ฉลองต่อหน้าแฟนบอลทีมเยือน จนทำให้เกิดเหตุวุ่นวาย

ในรายงานของคณะกรรมการตอนนั้นระบุว่า "ไม่มีหลักฐานใดที่แสดงให้เห็นว่าสโมสรพยายามแก้ไขพฤติกรรมที่ตอนนี้กลายเป็น 'ปัญหาเรื้อรัง' ไปแล้ว"