ไรท์วิจารณ์อังกฤษไม่พร้อมรับซุป'ตาร์ผิวสีอย่าง'จู๊ด'

มิดฟิลด์ตัวเก่งของ เรอัล มาดริด ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากบางส่วนหลังจากแสดงปฏิกิริยาเมื่อถูกเปลี่ยนตัวออกในระหว่างเกมที่ "สิงโตคำราม" ชนะแอลเบเนีย ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

โธมัส ทูเคิ่ล เฮดโค้ชทีมชาติอังกฤษ ซึ่งเคยขอโทษ เบลลิงแฮม ก่อนหน้านี้สำหรับการใช้คำว่า "น่ารังเกียจ" (repulsive) บรรยายพฤติกรรมในสนามของเขา ได้กล่าวว่าจะ "พิจารณาทบทวน" ปฏิกิริยาของกองกลางรายนี้

เบลลิงแฮม ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในการพาอังกฤษคว้าตำแหน่งรองแชมป์ยูโร 2024 แต่ปัจจุบันเขาไม่ได้รับประกันตำแหน่งตัวจริงภายใต้การคุมทีมของ ทูเคิ่ล และมีคำถามเกี่ยวกับตำแหน่งของเขาในทีมชุดฟุตบอลโลกช่วงฤดูร้อนปีหน้า

อย่างไรก็ตาม ไรท์ เชื่อว่าการรายงานข่าวเกี่ยวกับดาวเตะวัย 22 ปีรายนี้ ซึ่งเปิดตัวกับทีมชาติด้วยวัยเพียง 17 ปีนั้น ได้รับอิทธิพลมาจากสีผิวของเขา และเป็นสิ่งที่ทำให้คนบางกลุ่มหวาดกลัว

"ผมเป็นห่วงจู๊ด ง่ายๆ เลยคือ เพราะเขาเป็นคนที่สื่อไม่สามารถควบคุมได้ เขากำลังแสดงให้ผู้คนเห็นว่า 'ผมมาแล้ว, ผมเป็นคนผิวสี, ผมภาคภูมิใจ, และผมพร้อมที่จะลุย'" ไรท์ กล่าว 

ในปี 2018 สเตอร์ลิง ซึ่งติดทีมชาติไป 82 นัด และเล่นครั้งสุดท้ายในฟุตบอลโลก 2022 เคยตั้งคำถามถึงภาพลักษณ์ของนักฟุตบอลผิวสีในหนังสือพิมพ์ระดับชาติ และกล่าวหาสื่อเหล่านั้นว่าได้กระตุ้นให้เกิดอคติ

เมื่อถูกถามว่ามีความคล้ายคลึงกันหรือไม่ ไรท์ เสริมว่า "ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะพร้อมสำหรับ ซุป'ตาร์ผิวสี ที่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างที่จู๊ดกำลังทำอยู่ พวกเขาเข้าไม่ถึงตัวเขา"

"เขาออกไปที่นั่น เขาแสดงผลงาน เขาทำในสิ่งที่เขาทำ คงเป็นสิ่งที่ดูหยิ่งผยองเกินไปสำหรับคนเหล่านี้ ผมจะพูดในเชิงฟุตบอลนะ พวกเขาต่างก็รัก เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เขาเป็นคนผิวสีที่อ่อนน้อมถ่อมตน ทำหน้าที่ของตัวเองไป"

"แต่ถ้าคุณได้ (พอล) ป็อกบา หรือ เบลลิงแฮม ที่มีพลังแบบนั้น นั่นจะไม่เป็นที่พอใจของคนกลุ่มนี้ ดังนั้นใครบางคนอย่างจู๊ด ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้คนเหล่านี้หวาดกลัวเพราะความสามารถของเขา และแรงบันดาลใจที่เขาสามารถมอบให้ได้"

เบลลิงแฮม ถูกตัดออกจากทีมชาติอังกฤษชุดเดือนตุลาคมที่จะพบกับเวลส์และลัตเวีย ก่อนจะกลับมาติดทีมสำหรับรอบคัดเลือกเดือนนี้กับเซอร์เบียและแอลเบเนีย

บุคาโย ซาก้า, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เจดอน ซานโช่ เคยถูกเหยียดผิวในโซเชียลมีเดีย หลังจากทั้งสามพลาดจุดโทษในรอบชิงชนะเลิศยูโร 2020 ที่แพ้อิตาลีที่เวมบลีย์ นอกจากนี้ ภาพจิตรกรรมฝาผนังของแรชฟอร์ด ซึ่งเป็นผู้นำในการรณรงค์ต่อต้านแผนการของรัฐบาลที่จะยกเลิกมื้ออาหารกลางวันฟรีของโรงเรียนในช่วงปิดเทอม ก็เคยถูกทำลายในพื้นที่ทางใต้ของแมนเชสเตอร์หลังจบการแข่งขัน

"ถ้าคุณเป็นคนพูดตรง ๆ เป็นคนผิวสี และเล่นได้ในระดับนั้น และไม่สนใจใคร นั่นจะทำให้คนบางกลุ่มหวาดกลัว" ไรท์ ซึ่งยิงไป 9 ประตูจากการลงสนาม 33 นัดให้กับอังกฤษกล่าวทิ้งท้าย