โรบิน ฟาน เพอรซี่ กล่าวว่าการตัดสินใจให้ ชาควีล ลูกชาย ประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่ของเฟเยนูร์ด เกมพ่ายเซลติกในยูโรผปา ลีก โดยระบุว่าเป็นการตัดสินใจ "ในฐานะโค้ช" ไม่ใช่เพราะความรู้สึก
กองหน้าวัย 19 ปี ใช้เวลา 2 ฤดูกาลในอะคาเดมี่ของแมนฯ ซิตี้ ก่อนเดินตามรอยเท้าพ่อด้วยการย้ายไปเฟเยนูร์ดในปี 2017 และเซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกกับสโมสรในเนเธอร์แลนด์ในปี 2022
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วในปี 2025 ชาควีลได้รับการเสนอชื่อให้ติดทีมชุดใหญ่ของเฟเยนูร์ดเป็นครั้งแรกในเกมที่เฟเยนูร์ดพ่าย เอ็นอีซี ไนจ์เมเก้น ในศึกเอเรดิวิซี่ เมื่อวันอาทิตย์
4 วันต่อมา เขาได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก โดยลงเล่นในนาทีที่ 81 ในเกมยูโรปา ลีก ที่เฟเยนูร์ดแพ้เซลติก
"ผมตัดสินใจแบบนั้นในฐานะโค้ช ไม่ใช่ในฐานะพ่อ เพราะเราต้องการประตู" โรบิน อดีตกองหน้าอาร์เซน่อลและแมนฯ ยูไนเต็ด กล่าวหลังจากนั้น
"ชาควีลเป็นนักเตะที่สามารถทำประตูได้จากทุกมุม นั่นคือเหตุผลที่ผมส่งเขาลงเล่น"
"จากมุมมองของพ่อ เมื่อลูกชายของคุณได้ลงเล่นนัดแรก นั่นคือช่วงเวลาที่พิเศษเสมอ แต่ผมไม่ได้ยุ่งกับการสนุกกับช่วงเวลานั้นมากนัก ผมแค่ทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนกับที่ชาควีลทำอยู่"
วัยรุ่นที่เกิดในลอนดอนไม่มีโอกาสสร้างผลงาน และมีโอกาสยิงเพียงครั้งเดียวในกรอบเขตโทษของเซลติก
เขาลงสนามพร้อมกับสกอร์ 1-2 โดยทีมของ มาร์ติน โอนีล ยิงประตูที่ 3 หลังเขาลงสนามเพียงนาทีเดียว
"ผมมองชาควีลในฐานะหนึ่งในนักเตะ" โรบินกล่าวเสริม "นี่คือสิ่งที่เราทั้งคู่ตกลงกันไว้เมื่อ 2-3 ปีก่อน ตอนที่เราเคยร่วมงานกัน ชาควีลรับมือกับเรื่องนี้ได้ดีมาก ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน"
"แน่นอนว่าเมื่อเราได้กลับบ้าน เราจะมีช่วงเวลาที่ดี เมื่อเราภูมิใจในกันและกัน ผมภูมิใจในตัวชาควีล เพราะเช่นเดียวกับนักเตะทุกคนที่ได้ลงเล่นนัดแรก ต้องมีกระบวนการทั้งหมดเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะได้ลงเล่น เขาทำงานหนัก สมควรได้รับมัน และสำหรับเขาแล้ว นี่คือช่วงเวลาที่พิเศษ"
TH SPORTเว็บไซต์ข่าวกีฬา อัพเดทข่าวฟุตบอลต่างประเทศทุกวันทุกเวลา
