"วุฒิไกร" เตรียมขยี้วงในปิดเกมไว "โมฮาเหม็ด"

วุฒิไกร ก่อนหน้านี้ต้องหยุดชกมวยไปนานถึง 2 ปี เพื่อไปทำหน้าที่เป็นทหารเกณฑ์รับใช้ชาติ ก่อนจะปลดประจำการออกมาในช่วงกลางปี 2567 และตัดสินใจกลับมาซ้อมมวยต่อทันที โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการเข้ามาชกใน ONE ลุมพินี

โดยหลังจากได้อุ่นเครื่องด้วยการเก็บชัยชนะที่เวทีราชดำเนินและเวทีมวยไทยช่อง 7 สี มา 2 ไฟต์รวด วุฒิไกร จึงได้โอกาสให้มาพิสูจน์ตัวเองในศึก ONE ลุมพินี 99 เมื่อเดือน มี.ค. 68 และสามารถแจ้งเกิดได้ทันทีด้วยการเตะก้านคอน็อก ช่างทอง เอ็มยุเด็น ในยกสุดท้าย ก่อนที่ 2 เดือนต่อมาในศึก ONE ลุมพินี 109 เขาจะได้รับโอกาสให้กลับมาโชว์ฝีมืออีกครั้งพบกับ เอ มุย จากเมียนมา และเอาชนะทีเคโอยกแรก

วุฒิไกร ที่มี ชาติพยัคฆ์ ศักดิ์สตูล มวยรุ่นพี่ซึ่งซ้อมอยู่ด้วยกันที่ค่ายเกียรติเพชรเป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจสำคัญ เผยว่า

“ผมติดตามรายการ ONE ลุมพินี มาตั้งแต่เป็นทหารเกณฑ์แล้วครับ ตอนที่ยังอยู่ในกรมผมคิดมาตลอดว่าอยากจะมาชกในรายการนี้ให้ได้ เพราะเห็นหลายคนสามารถพลิกชีวิตให้ดีขึ้นได้ โดยเฉพาะพี่ชาติพยัคฆ์ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับผมมาโดยตลอด เพราะเขาเป็นมวยที่ชกสนุก และคว้าโบนัสจากรายการนี้ไปเยอะมาก”

“หลังออกจากกรม ผมได้โอกาสมาซ้อมที่ค่ายเกียรติเพชร และได้มาร่วมซ้อมกับพี่ชาติพยัคฆ์ ซึ่งเขาเป็นกันเองมากครับ ผมได้รับคำแนะนำทั้งเรื่องเทคนิคการชกและการเตรียมตัวมากมาย ซึ่งในอนาคตผมก็อยากจะตามรอยเขาเพื่อลุ้นคว้าสัญญา ONE บ้างเหมือนกันครับ”

“ส่วนผลงาน 2 ไฟต์ที่ผ่านมาถือว่าดีเกินคาด มาไกลเกินฝันแล้วด้วยซ้ำ เพราะผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยครับว่าชกมวยแค่ 2 ไฟต์จะได้เงินมากขนาดนี้ ซึ่งเงินโบนัสที่ได้มา 7 แสนบาท ผมนำไปต่อเติมบ้านให้แม่ที่ จ.บุรีรัมย์ และแบ่งบางส่วนเอาไปใช้หนี้ให้กับครอบครัวด้วยครับ”

กลับมาครั้งนี้ วุฒิไกร จะต้องโคจรมาพบกับด่านแกร่งดีกรีแชมป์มวยรอบ 3 ยก จากเวที LWC รุ่น 136 ป.อย่าง โมฮาเหม็ด ที่ไฟต์ล่าสุดงัดฟอร์มดุขนอาวุธหนักไล่ถล่มเอาชนะน็อกกำปั้นขวัญใจโลกโซเชียลอย่าง ซุปเปอร์ชับ บางแสนไฟต์คลับ ไปได้แบบสุดมันในยกสุดท้าย ในศึก ONE ลุมพินี 110 เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา

แม้จะเสียเปรียบเรื่องช่วงชกจากส่วนสูงที่น้อยกว่าถึง 10 ซม. แต่ วุฒิไกร ก็เตรียมแผนการรับมือมาเป็นอย่างดี และหวังเพิ่มสถิติชนะไม่ครบยกติดต่อกันเป็นไฟต์ที่ 3 ให้ได้ เพื่อใช้เป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนในการสร้างชื่อตัวเองให้เป็นที่จดจำยิ่งขึ้น

“โมฮาเหม็ด เป็นนักชกต่างชาติที่มีความเป็นมวยเหมือนคนไทย มีความหลากหลายทั้งการยืนมวยและการออกอาวุธ แต่จุดเด่นที่สุดของเขาเป็นเรื่องความอึดถึกทน เพราะในไฟต์ที่เขาเปิดตัว (แพ้คะแนนเอกฉันท์ อัสซาดูลาห์ อิมานกาซาลิเอฟ) เขายืนรับอาวุธเยอะมากแต่ยังยืนสู้จนครบยกได้ เห็นชัดว่าความทนทานของเขาไม่ธรรมดา”

“ครั้งนี้ผมเตรียมอาวุธมาครบเครื่องโดยเฉพาะศอกและเข่า เพราะตั้งใจจะเข้าไปเบียดสู้วงในให้หนักเพื่อลดข้อเสียเปรียบจากช่วงชกที่เขายาวกว่า ถ้าเป็นเกมประชิด รวมถึงน้ำหนักและความไวของอาวุธ ผมมั่นใจว่าไม่เป็นรองเขาแน่นอน”

“ไฟต์นี้สำคัญมากครับ เพราะ โมฮาเหม็ด กำลังมาแรงจากผลงานล่าสุด ถ้าหากผมชนะน็อกเขาได้ ก็จะยิ่งทำให้ผมเป็นที่รู้จักมากขึ้น และยังได้ล้างแค้นแทนนักชกไทยที่เขาเคยชนะมาก่อนด้วย รับรองว่าถ้าเห็นช่องเมื่อไหร่ ผมจะกดเขาลงให้ได้ครับ”