"หลิว เมิงหยาง" มองข้าม "ชาโด้" หวังนั่งบัลลังก์แชมป์

ไฟต์นี้ “หลิว เมิงหยาง” ต้องเผชิญหน้ากับ “ชาโด้” แทน หลังคู่ชกเดิม “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” เจ้าของบัลลังก์ ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ถอนตัวเพราะบาดเจ็บระหว่างฝึกซ้อม แต่นักสู้จากแดนมังกรไม่หวั่นวิตก ยืนยันพร้อมเจอทุกคนเพื่อพิสูจน์ศักยภาพบนเวทีระดับโลก

“ผมค่อนข้างผิดหวังที่ ตะวันฉายถอน ตัว ไม่คิดเลยว่าผมจะเป็นคู่ชกที่อันตรายสำหรับเขามากจนต้องโหมซ้อมหนักจนบาดเจ็บ จริง ๆ ก็อยากบอกว่า ‘ใจเย็นหน่อยเพื่อน นี่ก็คือกีฬา แพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดา’ ยังไงก็ขอให้เขาหายกลับมาไว ๆ ครับ”

“สำหรับผมแล้ว ชาโด้ ไม่ต่างจากคู่ต่อสู้คนอื่น ๆ เลย เพราะผมซ้อมเหมือนกับว่าทุกไฟต์สำคัญที่สุดในอาชีพ และผมก็คิดเสมอว่าคู่ต่อสู้แต่ละคนแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา”

กลับมารอบนี้ “หลิว เมิงหยาง” อยากพิสูจน์ให้เห็นว่า ผลงานไฟต์เปิดตัวในศึก ONE ลุมพินี 92 เมื่อเดือน ธ.ค. 67 ที่เอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “มาซาอากิ โนอิริ” ซึ่งในตอนนั้นยังไม่นั่งแท่นแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต เฉพาะกาล ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ

แม้ไฟต์ล่าสุด ในศึก ONE ลุมพินี 105 เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา เขาจะแพ้ให้กับ “โมฮัมหมัด เซียซารานี” จากอิหร่าน ด้วยคะแนนไม่เอกฉันท์ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความมุ่งมั่นสู่การชิงบัลลังก์คิกบ็อกซิ่งสั่นคลอนแม้แต่น้อย และหากเอาชนะจอมแกร่งอย่าง “ชาโด้” ได้ ก็จะเป็นการพิสูจน์ว่าเขาคือของจริงไม่อิงโชคแต่อย่างใด

“ผมเห็นหลายคอมเมนต์บอกว่าที่ชนะ มาซาอากิ เพราะโชคช่วย แต่สำหรับผมแล้วไม่ใช่เลย ทุกอย่างมาจากการทำงานหนัก ทีมงานที่ยอดเยี่ยม และการเก็บตัวฝึกซ้อมที่ดีที่สุดในโลก เช่นเดียวกับไฟต์นี้ที่จะเจอกับ ชาโด้ เราวางแผนการชกมาอย่างดี และจะช็อกโลกได้อีกครั้ง”

“ส่วนไฟต์ที่แพ้ โมฮัมหมัด ก็ทำให้ผมได้บทเรียนสำคัญหลายอย่าง นั่นคือการอยู่บนเวทีต้องสุขุมกว่านี้ และไม่ว่าเจออะไรต้องยึดมั่นในแผนชกของตัวเองเสมอ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือผมได้เรียนรู้ที่จะยอมรับความล้มเหลวครับ”

ครั้งนี้ “หลิว เมิงหยาง” ได้โอกาสสยบทุกข้อกังขาหากเอาชนะนักชกชาวไทยจอมแกร่งอย่าง “ชาโด้” ที่กำลังอยู่ในช่วงมั่นใจสุดขีด หลังจากที่ล่าสุดในศึก ONE Fight Night 35 เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา เขาโชว์อัดทีเคโอ “บัมปารา คูยาเต” ผู้ครองแรงกิงอันดับ 2 ของรุ่นเดียวกัน ในยกที่ 2 เปิดตัวบนเวที ONE (ใหญ่) อย่างสวยงาม พร้อมรับโบนัส 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1.6 ล้านบาท) พร้อมกับเพิ่มสถิติเป็น 6-1 ในการชกรายการของ ONE

อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ “ชาโด้” จะลงแข่งในกติกาคิกบ็อกซิ่งเป็นครั้งแรกในชีวิต “หลิว เหมิงยาง” จึงหวังใช้ประสบการณ์ในกติกาคิกบ็อกซิ่งที่เหนือกว่าหยุดความร้อนแรงของ “ชาโด้” เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนคู่ควรที่จะได้เป็นผู้ท้าชิงบัลลังก์ต่อไป

“ผมมั่นใจเต็มร้อยว่าเหนือกว่า ชาโด้ ตอนนี้สภาพร่างกายดีที่สุดเท่าที่เคยชกมา และแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะขึ้นโชว์ฝีมือให้โลกได้เห็นในวันที่ 26 ก.ย. นี้”

“ผมรักแฟน ๆ ชาวไทย เข้าใจดีว่าพวกเขาย่อมเชียร์นักสู้เจ้าบ้าน แต่หลังจากไฟต์นี้ ผมหวังว่าแฟน ๆ จะประทับใจในตัวผมเช่นกัน ไม่ว่าเกมจะจบด้วยคะแนนหรือการน็อกเอาต์ สุดท้ายผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะเป็นผู้ชนะครับ”

ศึกนี้ “หลิว เมิงหยาง” ไม่ได้มาสู้ด้วยตัวคนเดียว แต่เขาแบกความหวังของพี่น้องชาวจีนมาด้วย โดยหวังให้ชัยชนะเหนือ “ชาโด้” เป็นก้าวย่างสำคัญ นำพาไปสู่การเป็นแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต ในแบบที่แฟนกีฬาต่อสู้ทั่วโลกต้องจดจำ

ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มซ้อม ผมตั้งเป้าไว้แล้วว่าจะก้าวขึ้นเป็นแชมป์โลก ONE รุ่นเฟเธอร์เวต ผมไม่ได้มาเพียงเพื่อทำหน้าที่ให้จบ ๆ ไปเท่านั้น แต่ผมมาเพื่อเป็นราชาครองบัลลังก์ และพร้อมพิสูจน์ให้วงการคิกบ็อกซิ่งได้เห็นว่า นักสู้ที่เก่งที่สุดในรุ่นนี้มาจากประเทศจีนครับ”