"พระจันทร์ฉาย" ท้าดวล "ดิ เบลลา" เคลียร์ปมในใจ

วันอังคารที่ 30 กันยายน 2568
31
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share

"พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัย" แชมป์โลก ONE มวยไทย และ คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.) ตั้งเป้าสางความคาใจของ "โจนาธาน ดิ เบลลา" แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต เฉพาะกาล ในการเปิดศึกรวบบัลลังก์คิกบ็อกซิ่งเพื่อเฟ้นหาราชันของรุ่นนี้เพียงหนึ่งเดียว ในฐานะคู่เอกของศึก ONE Fight Night 36 วันเสาร์ที่ 4 ต.ค. นี้

ย้อนกลับไปในศึก ONE ลุมพินี 68 เมื่อเดือน มิ.ย. 67 ONE จัดไฟต์ชิงแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต ที่ว่างอยู่ โดยประกบเอา “พระจันทร์ฉาย” เจ้าของเข็มขัดแชมป์โลกกติกามวยไทย มาดวลกับ “โจนาธาน ดิ เบลลา” แชมป์เก่าในกติกานี้ที่เคยทำเข็มขัดหลุดบนตาชั่ง หลังไม่สามารถทำค่าน้ำหนักได้ตามเกณฑ์ในศึก ONE ลุมพินี 58 เมื่อเดือน เม.ย. 67 ส่งผลให้ “แชมป์ว่าง”

เกมการชกวันนั้นเต็มไปด้วยความดุเดือดตลอด 5 ยก ทั้งคู่สาดอาวุธใส่กันอย่างมีชั้นเชิง เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนมวยทั่วโลก ต่างฝ่ายต่างมั่นใจว่าอาวุธของตัวเองดีพอจะคว้าชัย เมื่อครบยก กรรมการทั้งสามเสียงให้ “พระจันทร์ฉาย” ชนะคะแนนเอกฉันท์ ผงาดคว้าแชมป์โลก 2 กติกา และบรรลุความฝันของตัวเองได้สำเร็จ แถมยังยัดเยียดความพ่ายแพ้แต้มแรกบนสังเวียนระดับอาชีพให้กับ “ดิ เบลลา” อีกด้วย

“ภาคแรกที่เจอกับ โจนาธาน ดิ เบลลา ช่วงต้นเกมผมยังจับจังหวะเขาไม่ค่อยได้ แต่พอเข้ายกสามก็เริ่มรู้แล้วว่าอาวุธไหนคือจุดอันตรายของเขา เลยทำให้ชกง่ายขึ้น ถ้าดูตามรูปเกมในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ผมคิดว่าผมไม่ได้เป็นรองเลย โดยเฉพาะยกสุดท้ายที่อาวุธผมเข้าเป้าอย่างชัดเจน”

“ผมดีใจมากที่ชนะในไฟต์นั้น เพราะคิกบ็อกซิ่งเป็นกติกาที่ผมไม่คุ้นเคย แค่ขึ้นชกครั้งที่สองก็ได้โอกาสชิงแชมป์และคว้าเข็มขัดมาครอง ที่สำคัญคือได้สู้กับคู่ต่อสู้ระดับซูเปอร์สตาร์ ถือว่าเป็นอีกไฟต์ที่ผมภูมิใจที่สุดในชีวิตครับ”

หลังจากขึ้นเป็นแชมป์โลกสองกติกา “พระจันทร์ฉาย” ข้ามสายกลับไปป้องกันบัลลังก์มวยไทยของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเอาชนะทีเคโอ “เอลลิส บาร์โบซา” ผู้ท้าชิงจากสหราชอาณาจักร ในศึก ONE Fight Night 28 เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา พร้อมคว้าดับเบิลโบนัสมูลค่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.3 ล้านบาท) เป็นรางวัลแห่งความสำเร็จในวันนั้น

ขณะเดียวกัน ในช่วงที่ “พระจันทร์ฉาย” กำลังปฏบัติภารกิจป้องกันเข็มขัดมวยไทยและยังไม่สามารถป้องกันบัลลังก์คิกบ็อกซิ่ง ONE จึงตัดสินใจจัดไฟต์ชิงแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต เฉพาะกาล ขึ้นในศึก ONE 172 เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา โดยประกบอดีตราชันของรุ่น “ดิ เบลลา” ดวลกับ “สามเอ ไก่ย่างห้าดาว” ซึ่งสุดท้ายเป็น “ดิ เบลลา” ที่เอาชนะไปได้ คว้าแชมป์โลกเฉพาะกาลมาครองได้สำเร็จ และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการรีแมตช์รวบแชมป์ในครั้งนี้

สำหรับ “พระจันทร์ฉาย” รู้ดีว่าชัยชนะในภาคแรกเมื่อหนึ่งปีก่อนทำให้ “ดิ เบลลา” ยังคงค้างคาใจในผลตัดสิน ซึ่งครั้งนี้เจ้าตัวตั้งเป้าจะโชว์ฟอร์มให้ดีกว่าเดิมเพื่อเอาชนะอย่างเด็ดขาดและลบทุกข้อกังขา

“สำหรับไฟต์รีแมตช์กับ ดิ เบลลา ผมมองว่าเขาเป็นงานหนักในระดับหนึ่ง เพราะในกติกาคิกบ็อกซิ่ง เขาคือคนที่เก่งที่สุด จุดแข็งของเขาอยู่ที่การออกอาวุธที่รวดเร็วน่ากลัวมาก แต่จุดอ่อนคือถ้าเขาไม่เดินบุก เขาจะเล่นงานคู่ต่อสู้ลำบาก”

“หลังจากเห็นเขาชนะพี่สามเอ ที่ญี่ปุ่น ผมก็คิดไว้แล้วว่ายังไงเราต้องได้กลับมาเจอกันอีกแน่นอน ครั้งก่อนเขาอาจจะยังคาใจ แต่ครั้งนี้ ผมอยากจบให้เร็ว ไม่ผมก็เขา มาวัดกันไปเลย ไม่ต้องค้างคากันอีก”

เป้าหมายของ “พระจันทร์ฉาย” ในไฟต์นี้ ไม่ใช่แค่ต้องการล้างตาให้หายคาใจเท่านั้น แต่ยังอยากพิสูจน์ให้เห็นว่า ตำแหน่งแชมป์โลก 2 กติกา คือสิ่งที่เขาคู่ควรอย่างแท้จริง และจะรักษาบัลลังก์นี้ไว้ให้นานที่สุด เพื่อยืนยันว่าเขาคือที่สุดของรุ่นสตรอว์เวตตัวจริง

“เป้าหมายของผมคืออยากรักษาเข็มขัดเส้นนี้ให้อยู่กับคนไทยไปให้นานที่สุด ฝากถึง ดิ เบลลา ว่าเตรียมตัวมาให้ดี ไม่ต้องกังวลว่าผมจะถอนหรือเจ็บป่วย ผมไม่หนีไปไหนแน่นอน”


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด