"สตีเฟน เออร์วิน" นักสู้จากสกอตแลนด์ พร้อมคว่ำ "แรมบ๊อง ส.เถระพัฒน์" กติกามวยไทย 130 ป. ในฐานะคู่เอกของศึก ONE ลุมพินี 128 วันศุกร์ที่ 10 ต.ค.นี้
ไฟต์แรกของ “สตีเฟน เออร์วิน” ในปีนี้เปิดตัวได้อย่างร้อนแรง หลังปล่อยหมัดเด็ดส่ง “ศรศึกน้อย เอฟเอ.กรุ๊ป” ลงไปให้กรรมการนับ ก่อนเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ไปได้อย่างสวยงาม ในศึก ONE ลุมพินี 100 เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
ชัยชนะครั้งนั้นส่งให้ “สตีเฟน” สร้างสถิติสุดสวยต่อเนื่อง โดยเก็บแต้มชัย 6 ครั้ง จาก 7 ไฟต์ที่ลงแข่งขันบนสังเวียน ONE ลุมพินี โดยทั้งหมดเป็นการเอาชนะนักชกชาวไทยมาได้ และยังคงฟอร์มแรงต่อเนื่องหลังจากคว้าชัยรวดใน 4 ไฟต์หลัง ทำให้ปัจจุบันเขากำลังอยู่บนเส้นทางล่าสัญญาสู่เวทีระดับโลก ตามรอย “นิโค คาร์ริลโล” เพื่อนสนิทที่รั้งตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 4 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145–155 ป.)
“ผมซ้อมกับ นิโค มาตั้งแต่เด็ก ๆ ทุกวันนี้เขาไปไกลกว่าผมหนึ่งก้าว เขาได้ขึ้นชกไฟต์ใหญ่ ๆ และทำผลงานได้ดีเสมอ เขาเป็นแรงบันดาลใจของผมเลยครับ การได้เห็นเขายืนอยู่บนเวทีระดับโลก ทำให้ผมรู้ว่าโอกาสที่ผมจะคว้าสัญญาเป็นไปได้และใกล้เข้ามาทุกที”
“ตอนนี้ผมกำลังเดินบนเส้นทางของตัวเอง และเชื่อว่าสัญญา ONE อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ผมมั่นใจว่าจะขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับ นิโค ได้ในเร็ว ๆ นี้ ความฝันของผมคือการเป็นนักชกชาวสกอตแลนด์ที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้ครับ”
การกลับมาครั้งนี้ “สตีเฟน” ต้องเผชิญกับอีกหนึ่งจอมบู๊ชาวไทยอย่าง “แรมบ๊อง”ที่ผ่านศึกบนสังเวียนแห่งนี้มาแล้วถึง 11 ไฟต์ กวาดชัยได้ถึง 8 ครั้ง โดยก่อนหน้านี้เขาทำผลงานชนะติดต่อกันถึง 7 ไฟต์ ก่อนจะถูก “สุริยันต์เล็ก พ.เย็นยิ่ง” หยุดสถิติไว้ในศึก ONE ลุมพินี 115 เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งไฟต์นี้ “แรมบ๊อง” ตั้งใจจะกลับมาเรียกศรัทธาอีกครั้ง ด้วยการคว้าชัยเหนือคู่ชกต่างชาติฝีมือฉกาจอย่าง “สตีเฟน” ให้ได้
ขณะที่ “สตีเฟน” รู้ดีถึงความอันตรายของคู่ต่อสู้และศึกษาจุดอ่อนของ “แรมบ๊อง” มาอย่างละเอียด โดยเตรียมแผนเด็ดมาสยบคู่ต่อสู้จากแดนสยามให้ได้เป็นรายที่ 7 ในรายการนี้
“แรมบ๊อง เป็นนักสู้ที่บู๊ ดุดัน และหมัดอันตรายจริง แต่ช่องโหว่มักเปิดเมื่อเขาประมาท และนั่นคือจังหวะที่ผมจะเล่นงานได้ ผมยอมรับว่าสถิติของเขายอดเยี่ยม แต่ผมไม่ใช่คู่ต่อสู้แบบที่เขาเคยเจอมา”
“ถ้าเขาคิดว่าจะสามารถกดกันผมได้ด้วยการเดินบู๊ใส่ ผมว่าผิดทางแน่ เพราะผมมีประสบการณ์รับมือมวยบู๊แบบนี้ รู้วิธีดักจับจังหวะและตอบโต้ได้ดี ผมได้เปรียบในด้านเทคนิค ความเฉียบคม และความรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้น ผมวางแผนสู้แบบมีหลักการ ส่วนเขาบ้าบิ่นเกินไป ซึ่งอาจกลายเป็นจุดอ่อนของเขาในไฟต์นี้”
“ผมเชื่อว่าไฟต์นี้จะจบลงด้วยการน็อกเอาต์ จะต้องมีคนลงไปนอนแน่ แต่ไม่ใช่ผม เพราะผมจะเป็นคนล้มเขาเอง ผมเอาชนะนักชกไทยมาแล้ว 6 คน และเขาจะเป็นหมายเลข 7 ของผม”
