"ฟาบริซิโอ" ป้องแชมป์ "เอ็งค์ ออร์กิล" ศึก ONE Fight Night 38

นับตั้งแต่เข้ามาโลดแล่นใน ONE เมื่อเดือน ก.ค. 63 “ฟาบริซิโอ” โชว์ความเหนือชั้นบนสังเวียนต่อเนื่อง โดยสั่งสมสถิติแพ้ใครไม่เป็นในกติกา MMA และผงาดครองบัลลังก์ ONE MMA รุ่นแบนตัมเวต ในเวลาต่อมาด้วยการเอาชนะทีเคโออดีตแชมป์ “จอห์น ลินีเคอร์” จากบราซิล ในศึก ONE Fight Night 7 เมื่อเดือน ก.พ. 66

ด้วยประสบการณ์การชกคิกบ็อกซิ่งและมวยไทยมาพอสมควร “ฟาบริซิโอ” ได้โอกาสท้าทายตัวเองด้วยการข้ามสายไปชิงเข็มขัดเส้นที่ 2 ในสายคิกบ็อกซิ่ง โดยได้ประจันหน้ากับ “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” แต่สุดท้ายทำไม่สำเร็จ ซึ่งนั่นเป็นความพ่ายแพ้ครั้งเดียวจากการต่อสู้ 9 ไฟต์ในรายการของ ONE

จากนั้น “ฟาบริซิโอ” หวนกลับสู่เส้นทาง MMA ที่คุ้นเคย โดยทำหน้าที่รั้งบัลลังก์ครั้งแรกกับ “ควอน วอน อิล” คู่ปรับเก่าจากเกาหลีใต้ ในศึก ONE 170 เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และปรากฏว่าเขาใช้เวลาเพียง 42 วินาที ของยกแรก รัวหมัดชุดใหญ่ปิดเกมอย่างเด็ดขาด รักษาเข็มขัดได้สำเร็จ พร้อมคว้าโบนัส 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1.6 ล้านบาท) ไปครอง ครั้งนี้ “ฟาบริซิโอ” เตรียมกลับมาป้องกันบัลลังก์อีกครั้ง โดยหวังทลายแกร่ง “เอ็งค์ ออร์กิล” พิสูจน์ตัวว่าคู่ควรกับตำแหน่งราชันต่อไป

ขณะที่ฝั่งของ “เอ็งค์ ออร์กิล” ลูกศิษย์ของอดีตแชมป์โลก ONE MMA รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) “นารันตุงกาลัก จาดัมบา” ทำผลงานโดดเด่นในทุกครั้งที่ยืนอยู่บนสังเวียนด้วยพลังอันไร้ขีดจำกัด โดยเข้ามาโชว์ฝีมือที่ ONE ในฐานะแชมป์ Road to ONE มองโกเลีย ปัจจุบันฝากผลงานไปแล้ว 7 ไฟต์ แพ้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และเป็นการชนะไม่ครบยกถึง 4 ครั้ง ส่งให้เขาขึ้นมาเป็นหนึ่งในตัวท็อปของแรงกิงของรุ่นนี้ในปัจจุบัน

จากผลงานร้อนแรงชนะ 3 ไฟต์ติด รวมถึงล่าสุดที่เขาเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ตัวท็อปเบอร์ 5 ของแรงกิง “เจเรมี ปาคาทิว” จากฟิลิปปินส์ ได้อย่างสวยงาม ในศึก ONE Fight Night 29 เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา ทำให้เขาได้รับโอกาสทองก้าวขึ้นมาท้าชิงเข็มขัดเป็นครั้งแรก

ศึกนี้จึงกลายเป็นการดวลกันของสองนักสู้ MMA ฟอร์มแรง จับตาดูว่า “ฟาบริซิโอ” จะยืดสถิติไร้พ่ายในกติกานี้และรักษาเข็มขัดไว้ต่อไป หรือ “เอ็งค์ ออร์กิล” จะขึ้นเป็นราชันคนใหม่ได้สำเร็จ เช้าวันเสาร์ที่ 6 ธ.ค.นี้ ห้ามพลาดชม