"เวโร" มุ่งล่าฝัน สืบทอดตำนานฮีโร "ออง ลา"
"เวโร" ซูเปอร์สตาร์หญิง วัย 29 ปี จากเมียนมา พร้อมประกาศศักดานักสู้หญิงแกร่งแห่งลุ่มน้ำสาละวิน เตรียมรับน้องโหด "หลี่ หมิงรุย" จอมบู๊ใจใหญ่ วัย 29 ปี จากจีน โดยไม่ให้กองเชียร์ทั้งประเทศต้องผิดหวัง โดยทั้งคู่จะดวลกันภายใต้กติกามวยไทย รุ่นอะตอมเวต (105-115 ป.) ขึ้นป้ายคู่รองของศึก ONE ลุมพินี 132 วันศุกร์ที่ 7 พ.ย.นี้
“เวโร” เจ้าของแชมป์ THAI FIGHT คาดเชือก 2 สมัย โชว์ฝีมือไฟต์แรกในศึก ONE ลุมพินี 97 เดินหน้าแลกอาวุธสู้กับ “ฟรานซิสกา เวรา” จากชิลี แบบสุดมัน แม้วันนั้นเธอพ่ายคะแนนไม่เอกฉันท์ (2 ต่อ 1 เสียง) แต่ได้รับโบนัส 350,000 บาท ติดมือไปทั้งสองฝ่าย โทษฐานที่สู้กันได้น่าประทับใจ
ล่าสุดเธอดับฮอต “จูเนียร์ แฟร์เท็กซ์” ผู้ไร้พ่าย 7 ไฟต์ติดในรายการนี้ด้วยการชนะทีเคโอยก 2 ในศึก ONE ลุมพินี 107 เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา พร้อมหยิบโบนัสก้อนที่ 2 กลับบ้านไปด้วย และทำให้เธอได้เรียนรู้ประสบการณ์มากมายในการแข่งขันบนเวทีนี้
“ไฟต์แรกของฉันใน ONE ลุมพินี เป็นครั้งแรกที่ลดน้ำหนักมาชกรุ่น 52 กก. ฉันไม่ได้ถามโค้ชเรื่องการกินหลังชั่งน้ำหนัก ซึ่งถือเป็นความผิดพลาด ตอนนั้นรู้เลยว่าจะต้องเหนื่อยแน่ แต่ก็พยายามสู้ให้ดีที่สุด พอผ่านมันมาได้ ฉันก็ได้เรียนรู้เรื่องการคุมอาหารมากขึ้น และสัญญาว่าจะกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม เพราะไม่อยากให้ทุกคนเห็นฉันในสภาพแบบนั้นอีก”
ไฟต์ล่าสุดฉันดีใจที่ได้ชัยชนะ และต้องขอชื่นชม จูเนียร์ เธออายุน้อยแต่เป็นนักสู้ที่เก่งมากจริง ๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะชกแรงขนาดนั้น พอเห็นเธอโดนแบบนั้นก็รู้สึกไม่สบายใจ”
“ตอนที่ฉันเผลอแสดงท่าทางที่ดูไม่เหมาะสมออกไป พอมาย้อนดูคลิปก็รู้เลยว่าเป็นการกระทำที่ไม่ให้เกียรติ ซึ่งฉันรู้สึกเสียใจจริง ๆ แต่ฉันมั่นใจว่า จูเนียร์ จะกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิมแน่นอนค่ะ”
เดิมที “เวโร” มีโปรแกรมเปิดตัวบนสังเวียนระดับโลกครั้งแรก พบกับ “อนิสสา เม็กเซน” ตัวแทนฝรั่งเศส-แอลจีเรีย ภายใต้กติกาคิกบ็อกซิ่ง ในศึก ONE Fight Night 37 ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 8 พ.ย. นี้ แต่ไฟต์ต้องถูกยกเลิกเนื่องจากทาง “อนิสสา” ขอถอนชกด้วยเหตุผลส่วนตัว ทำให้ “เวโร” ถูกขยับมาชกในศึกนี้แทน ซึ่งเธอก็ไม่ได้ติดขัดอะไร พร้อมจัดการคู่ชกทุกคนที่ยืนขวางหน้าเช่นเดิม
“ตอนแรกที่รู้ว่าจะได้เจอกับ อนิสสา ฉันเตรียมความพร้อมทุกอย่างสำหรับการแข่งขันในกติกาคิกบ็อกซิ่งไว้เรียบร้อยแล้ว ฉันดีใจที่ได้สู้กับเธอ เพราะเธอเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่ง และฉันอยากพิสูจน์ว่าตัวเองชกคิกบ็อกซิ่งได้ดีเช่นกัน แต่เมื่อเธอขอถอนตัว ฉันก็ต้องกลับมาโฟกัสที่มวยไทยอีกครั้ง”
“ฉันตอบรับไฟต์นี้เพราะ หลี่ หมิงรุย เป็นคู่ต่อสู้ที่มีฝีมือ และฉันอยากเจอกับนักสู้ที่เก่งขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อทดสอบว่าตัวเองอยู่ระดับไหน เธอเป็นแชมป์คิกบ็อกซิ่งที่มีอาวุธหมัดและเตะสูงยอดเยี่ยม แต่ฉันมีประสบการณ์มวยไทยมากกว่า รวมถึงมีแข้งและศอกที่คมกว่าด้วย”
ในฐานะที่นักสู้จากเมียนมา “เวโร” ได้กล่าวถึงความสนิทสนมกับ “ออง ลา เอ็น ซาง” ตำนานนักสู้รุ่นใหญ่ วัย 40 ปี ที่เพิ่งปิดตำนานฮีโรเมียนมา หลังฝากผลงานบนสังเวียนมานานกว่า 20 ปี โดยเธอยอมรับว่ามีนักสู้รุ่นพี่คนดังรายนี้เป็นต้นแบบ และหวังเดินเจริญรอยตามเป็นความหวังของพี่น้องเพื่อนร่วมชาติคนต่อไป
“ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อจะเป็นซูเปอร์สตาร์ แต่หลายคนมองว่าฉันคือ ‘ออง ลา คนที่สอง’ ฉันเพียงแค่โฟกัสกับการฝึกซ้อมให้ดีที่สุด และพยายามทำทุกอย่างเพื่อประเทศเมียนมา”
“ออง ลา เป็นเหมือนพี่ชาย เขามักบอกฉันเสมอว่า ‘เวโร คุณเป็นแชมป์ได้แน่นอน ผมเชื่อในตัวคุณ’ ฉันตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เจอเขา เพราะเขาคือไอดอลของฉัน เขาคือคนแรกที่ทำให้นักสู้ชาวเมียนมาเห็นว่า ทุกอย่างเป็นไปได้ ฉันนับถือเขาและอยากเดินตามรอยเขาค่ะ”
“หลังจาก ออง ลา แขวนนวมไป ฉันอยากเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่ยืนหยัดเพื่อชาวเมียนมาในการต่อสู้บนเวทีที่ยิ่งใหญ่ และเป็นนักสู้ที่ดีเพื่อให้ทุกคนได้ภูมิใจค่ะ”
