ขุนศึกน้อย พร้อมคว้าแชมป์สร้างประวัติศาสตร์ตามรอยแฝดพี่!

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้บทบาทการชิงแชมป์ตกมาอยู่ในมือของขุนศึกน้อย ที่จะต้องขึ้นชิงแชมป์เฉพาะกาลรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวต ราชดำเนิน กับ เมธี ส.ส.ต้อยแปดริ้ว ในศึก RWS วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายนนี้

ขุนศึกน้อยเล่าถึงวินาทีที่เห็นแฝดพี่บาดเจ็บด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า "วันนั้นผมตกใจมากครับ ตอนนั้นผมเห็นเหตุการณ์ ผมเลือกที่จะไม่เดินเข้าไปดู เพราะว่าผมสงสารครับ แบบมองไปเห็นเลือด เลือดมันเริ่มออกมา ผมคิดว่าเป็นหนักแน่แล้ว ตอนนั้นผมหันหน้าเดินออกจากสนามไป"

เมื่อขุนศึกเล็กถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แฝดน้องก็รีบตามไปดูอาการ "ผมก็รีบวิ่งไปดู ถามพี่ว่าเป็นยังไงบ้าง แต่มองตากันแล้วก็รู้ว่าน่าจะไม่ไหว" และระหว่างที่พี่ชายอยู่ที่โรงพยาบาลก็ได้มีการพูดคุยกันผ่านแชท

สิ่งที่ทำให้ขุนศึกน้อยฮึดสู้คือคำพูดจากขุนศึกเล็ก "เขาก็บอกให้ผมทำแทนเขาให้ได้ เพราะเขาคิดไว้ว่า ผมได้ต่อยแทนเขาแน่ ผมก็รับปากว่าผมจะทำแทนให้และจะทำให้สำเร็จด้วย"

ขุนศึกน้อยยอมรับว่าครั้งแรกที่ไปเจอแฝดพี่ที่โรงพยาบาล ทั้งคู่ถึงกับกอดกันร้องไห้ "เจอกันที่โรงพยาบาลครั้งแรกก็กอดกันร้องไห้สองคน เพราะกลัวเขาเจ็บหนัก กลัวจะกลับมายาก หรือกลับมาไม่ได้เลย ถึงกลับมาแล้ว ผมก็กลัวพี่ไม่เหมือนเดิม"

แม้จะมีความห่วงใย แต่ขุนศึกน้อยก็เต็มไปด้วยความมั่นใจในการชกครั้งนี้ โดยมองว่านี่อาจเป็น "โชคชะตา" ที่อยากให้ตนเองเป็นแชมป์ "ครั้งนี้ผมมั่นใจ เพราะว่าเหมือนโชคชะตาอยากให้ผมเป็นแชมป์หรือเปล่า ขุนศึกเล็กก็เลยเจ็บไป เหมือนส้มหล่นมาหาผม"

แฝดน้องยืนยันว่าจะชกไฟต์นี้เพื่อขุนศึกเล็ก และพร้อมเดินตามรอยความสำเร็จของพี่ชาย "เขาน่าจะหวังไว้กับผมเยอะ ผมจะทำพลาดไม่ได้แล้ว ผมรับปากเขาว่าผมจะตั้งใจ และจะสู้เพื่อเขาเลยครับ สำหรับไฟต์นี้ ครั้งนี้จะทำแทนขุนศึกเล็กให้ได้ครับ"

เป้าหมายสูงสุดคือการสร้างประวัติศาสตร์ให้ครอบครัว "จะเอาแชมป์กลับขอนแก่น เพราะว่าพี่ก็เคยเป็นแชมป์ 118 ปอนด์ ผมก็จะเป็นแชมป์ 122 ปอนด์ มันจะเป็นประวัติศาสตร์ด้วยครับ ถ้าผมได้แชมป์ ผมจะรักษาไว้ให้ดีที่สุด"

แฟนหมัดมวยต้องติดตามชมว่า ขุนศึกน้อย บูมเด็กเซียน จะทำตามคำมั่นที่ให้ไว้กับแฝดพี่ได้สำเร็จ และคว้าแชมป์เฉพาะกาลรุ่นซูเปอร์แบนตัมเวต ราชดำเนิน มาครองเพื่อสร้างประวัติศาสตร์ให้กับตระกูลได้หรือไม่ ในศึก RWS เสาร์ที่ 8 พ.ย.นี้