"ซุปเปอร์บอน" มั่นใจทักษะเหนือกว่า "มาซาอากิ" เข็มขัดไม่หลุดมือ
"ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์" แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) มั่นใจสกิลบู๊คิกบ็อกซิ่งไม่เป็นสองรองใคร เชื่อเตรียมตัวมาดีที่จะเอาชนะ "มาซาอากิ โนอิริ" เจ้าของแชมป์เฉพาะกาล ผงาดเป็นราชันเพียงหนึ่งเดียวของรุ่นต่อไป ในศึกใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ ONE 173: ซุปเปอร์บอน vs มาซาอากิ ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ย. 68 ณ สนามอาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เริ่มคู่แรกเวลา 11.00 น.
“ซุปเปอร์บอน” ที่ได้รับการสถาปนาให้เป็น แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต อย่างเป็นทางการ เมื่อช่วงต้นปี 2568 เตรียมออกไปป้องกันแชมป์นอกบ้านครั้งที่ 3 ใน ONE แต่งานนี้อาจไม่ง่ายเหมือนที่คิด เมื่อคู่ชกคือ “มาซาอากิ” ที่ครองเข็มขัดแชมป์โลกเฉพาะกาลรุ่นนี้เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา หลังเอาชนะทีเคโอยก 3 “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” แบบช็อกโลกในศึก ONE 172 ที่ญี่ปุ่น ทำให้ “ซุปเปอร์บอน” ไม่สามารถมองข้าม “มาซาอากิ” ได้เลย
“ตอนที่ มาซาอากิ ถูกประกบเจอ ตะวันฉาย ผมมองว่าสูสี เพราะประสบการณ์ด้านคิกบ็อกซิ่งของ ตะวันฉาย เป็นรอง โดยสองยกแรก ตะวันฉาย ค่อนข้างทำได้ดี ขณะที่ มาซาอากิ อาศัยความคุ้นชินในกติกา ดักจังหวะออกอาวุธ ถือเป็นเกมที่สามารถแพ้ชนะกันได้ทั้งคู่”
“จุดที่ผมเซอร์ไพรส์คือ มาซาอากิ มีความอดทนสูง จริง ๆ อาวุธเขาไม่น่ากลัว แต่ทนการโจมตีได้ดีและรอจังหวะออกอาวุธให้โดนโป้งเดียวจอด ซึ่งเกมวันนั้น ตะวันฉาย ไม่ได้ทำผิดพลาดมาก แต่เป็นจังหวะที่เกิดขึ้นได้ในการต่อสู้ ผมจึงคิดว่า มาซาอากิ ตั้งใจวางแผนมาสู้แบบนั้น”
“สิ่งเดียวที่ผมต้องรับมือให้ได้คือความกดดันจากแฟนเจ้าบ้าน ส่วนสไตล์การชกของ มาซาอากิ เป็นรูปแบบเดิม ๆ เหมือนกับนักชกคิกบ็อกซิ่งคนอื่น ๆ ที่เคยเจอ ซึ่งผมคุ้นเคยกับการต่อสู้กติกานี้มานาน ขอแค่เตรียมความพร้อมไปให้ดีและฟิตเต็มที่ มั่นใจป้องกันแชมป์ได้ครับ”
แม้ “มาซาอากิ” จะเริ่มเส้นทางใน ONE ด้วยความพ่ายแพ้ 2 ไฟต์ติด แต่หลังจากนั้นเขาก็พัฒนาฝีมือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ล่าสุดเก็บชัย 2 ไฟต์ติดต่อกัน ทำให้ “ซุปเปอร์บอน” ต้องศึกษาข้อมูลของอีกฝ่ายอย่างละเอียด เพื่อเค้นฟอร์มที่ดีที่สุดออกมา และรักษาเข็มขัดให้อยู่กับคนไทยต่อไป
“มาซาอากิ เป็นถึงอดีตแชมป์ K-1 ฝีมือไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ในญี่ปุ่นเขาคงหาคู่ชกยากเลยข้ามมาชกที่ ONE เขาคืออันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งการที่เขาเอาชนะน็อก ตะวันฉาย ได้ก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดา เพราะขนาดผมเองยังเคยแพ้ให้กับ ตะวันฉาย มาทั้ง 2 ครั้ง”
“เขามีสไตล์การต่อสู้แบบญี่ปุ่นคือชกหมัดและเตะขาได้น่ากลัว และถ้าพลาดโดนเตะจิกเข้าที่หน้าท้องก็สามารถทำให้จุกได้ นี่คือทักษะที่น่ากลัวของพวกเขา ผมจึงต้องหาวิธีแก้เอาไปไว้รับมือให้ได้ครับ”
“แต่ในแง่ของทักษะผมเหนือกว่า มาซาอากิ แทบทุกด้าน โดยเฉพาะผลงานด้านคิกบ็อกซิ่ง ไฟต์นี้ผมจึงค่อนข้างมั่นใจว่าจะเอาชนะได้ ถ้ามีความพร้อม เราสามารถชกกับใคร หรือชกที่ไหนก็ได้ ทำให้ไม่ได้กังวลอะไรมากครับ”
สุดท้าย “ซุปเปอร์บอน” ยังได้ย้ำเป้าหมายชัดเจนว่า การรั้งเข็มขัดครั้งนี้มีความหมายต่อตนมากแค่ไหน โดยพร้อมฝ่าทุกแรงกดดันและทำผลงานให้ออกมาดีที่สุด เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงฝีมือของนักคิกบ็อกซิ่งระดับโลกตัวจริง ที่ใครก็ยากจะโค่นลงได้
“ชัยชนะครั้งนี้สำคัญมาก เพราะหากเกิดพลาดเสียแชมป์ไป โอกาสทวงคืนกลับมาได้น่าจะยากกว่าเดิม เพราะอายุเริ่มมากขึ้นแล้ว ดังนั้นผมจะต้องทำผลงานให้ออกมาดีที่สุด และจะไม่ยอมปล่อยเข็มขัดไปง่าย ๆ อย่างแน่นอน”
“ผมคือคนละคนกับ ตะวันฉาย และการน็อกผมในกติกาคิกบ็อกซิ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ในทางกลับกันถ้าเขาชกหมัดเพลิน ๆ อาจจะหลับกลางอากาศก็ได้ อยากรู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เดี๋ยวเอาไว้ไปติดตามดูวันชกกันครับ”
