"เจก" มุ่งมั่นสยบ "เสือคิม" ลบข้อสงสัยในฝีมือ
"เจก พีค็อก" นักสู้ใจเด็ด วัย 32 ปี ตัวแทนสหราชอาณาจักร-แคนาดา มั่นใจพร้อมสานต่อฟอร์มเก่ง หยุดความฮอตของ "เสือคิม สจ.โต้งปราจีน" กำปั้นจอมดุ วัย 30 ปี ให้ได้ในการดวลกันภายใต้กติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ในศึก ONE 173: ซุปเปอร์บอน vs มาซาอากิ ที่จะเปิดฉากขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ย.นี้ ณ สนาม อาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เริ่มคู่แรกเวลา 11.00 น.
“เจก” นักสู้ดีกรีแชมป์ Road To ONE แคนาดา ในปี 2566 พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า แม้จะมีแขนเพียงข้างเดียวมาตั้งแต่เกิดนั้นไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเป็นนักสู้ มิหนำซ้ำยังทำผลงานร้อนแรงบนสังเวียนแบบประทับใจคนดู โดยเปิดตัวใน ONE สุดปังจากการเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “โคเฮอิ ชินโจ” จากญี่ปุ่น ในศึก ONE ลุมพินี 58 เมื่อเดือน เม.ย. 67 และล่าสุดในศึก ONE 171 เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา เพิ่งคว้าชัยชนะทีเคโอยก 3 เหนือ “ชินจิ ซูซูกิ” อีกหนึ่งนักชกจากแดนซามูไรได้อีก
ตอนนี้ “เจก” พร้อมแล้วสำหรับการออกตามล่าสถิติไร้พ่ายไฟต์ที่ 3 โดยไฟต์นี้เจ้าตัวตัดสินใจย้ายสถานที่ฝึกซ้อมจากยิมในแคนาดามายังประเทศไทย โดยเก็บตัวอยู่ที่ค่ายมวยดังบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อช่วยขัดเกลาทักษะให้เฉียบคมยิ่งขึ้น พร้อมกับพาครอบครัวมาด้วยเพื่อพักผ่อนไปในตัว
“ผมเริ่มเตรียมตัวมาประมาณ 12 สัปดาห์แล้ว เพราะรู้ดีว่าพอมาถึงเมืองไทย คงต้องใช้เวลาปรับตัวและจัดการหลายเรื่อง เราอยู่กรุงเทพฯ แค่สัปดาห์เดียว ก่อนจะบินไปเก็บตัวต่อที่เกาะสมุย ตลอดเดือนที่ผ่านมา ผมซ้อมหนักต่อเนื่อง ทุกอย่างเริ่มลงตัวดี แถมครอบครัวก็ให้การสนับสนุนเต็มที่ครับ”
“ข้อดีอย่างหนึ่งของการมาที่นี่ คือได้พาครอบครัวมาชมการแข่งขันศึก ONE ด้วย ที่บ้านเกิดตอนนี้ผมมีเรื่องให้รับผิดชอบเยอะมาก แต่พอมาที่นี่ ผมตั้งใจจะโฟกัสแค่สองอย่าง คือใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัว และทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ครับ”
ด้านคู่ชกอย่าง “เสือคิม” กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มขาขึ้นแรงไม่หยุด เมื่อทำสถิติเก็บชัยชนะ 5 ไฟต์รวดอยู่ในปัจจุบัน ล่าสุดเขาได้โอกาสขึ้นชกบนเวทีรายการใหญ่เป็นครั้งแรกในศึก ONE Fight Night 34 เมื่อวันเสาร์ที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา และโชว์ลีลาการชกได้อย่างดุดันเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “ซาเฟอร์ ซายิก” จากตุรกี ก้าวขึ้นมาเป็นตัวตึงของรุ่นแบนตัมเวตอย่างเต็มตัว
แม้ “เสือคิม” จะมีประสบการณ์บนเวทีมากกว่าชัดเจน แต่ “เจก” เชื่อว่าความหลากหลายในการเข้าทำและพลังของเขาจะสร้างความแตกต่างในการชกได้ โดยเจ้าตัวมั่นใจว่าจะเปิดหน้าแลกสู้กับนักชกไทยได้สนุกแน่นอน
“เสือคิม เป็นนักสู้ที่มีประสบการณ์สูงมาก เขาแข็งแกร่งสุด ๆ ยิ่งคุณโจมตีเขาหนักเท่าไร เขาก็ยิ่งบุกกลับมาหนักเท่านั้น ถ้าไม่สามารถทำให้เขาหลับได้จริง ๆ เขาจะเดินฝ่าอาวุธกลับมาได้เสมอ ไม่ว่าจะสู้กันกี่ยกก็ตาม”
“เขาเป็นนักสู้ที่ครบเครื่อง สู้ได้ทุกระยะ ดุดันและใจสู้มาก แต่ผมเองก็มีความดุดันไม่แพ้กัน และมั่นใจว่าผมมีความคล่องตัวเหนือกว่า ผมแข็งแกร่งมากในพิกัดนี้ และไม่คิดว่าเขาจะสามารถเดินฝ่าอาวุธของผมได้เหมือนที่ผ่านมาแน่นอนครับ”
นอกจากนี้ “เจก” มองว่าการฝ่าด่านหินอย่าง “เสือคิม” คือบทพิสูจน์สำคัญที่จะชี้ชัดว่าเขายังพัฒนาฝีมือได้อีกไกล โดยตั้งเป้าโชว์ฟอร์มสุดเซอร์ไพรส์ เพื่อพิชิตใจแฟนมวยและยืนยันศักยภาพของตัวเองบนเส้นทางนี้
“ผมอยากทดสอบตัวเองไปเรื่อย ๆ เพื่อรู้ว่าจะเก่งได้แค่ไหน จะไปได้ไกลถึงจุดไหน ผมอายุ 32 ปีแล้ว แต่เชื่อมั่นว่ายังพัฒนาได้อีกมากครับ”
“เสือคิม เป็นคู่ต่อสู้ที่ผมให้ความเคารพมาก เขาเตรียมตัวมาดีแน่นอน และถ้าผมสามารถเอาชนะได้ เชื่อว่าจะช่วยลบข้อกังขาของหลาย ๆ คนได้”
“หลายคนอาจคาดหวังว่าจะได้เห็นสไตล์การชกแบบเดิม แต่ครั้งนี้ผมรับรองว่าจะได้เห็นสิ่งที่ต่างออกไปแน่นอน เพราะผมมีของดีอีกเยอะที่ยังไม่เคยโชว์ให้เห็น และเชื่อว่าครั้งนี้หลายคนจะต้องเซอร์ไพรส์ครับ”
