"แสตมป์" เล็งแก้มือ "คานะ" กติกามวยไทย

“แสตมป์” อดีตแชมป์โลก ONE รุ่นอะตอมเวต 3 กติกา (มวยไทย, คิกบ็อกซิ่ง และ MMA) สลัดอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า หวนคืนสังเวียนอีกครั้ง พบกับ “คานะ” นักสู้สาวขวัญใจเจ้าถิ่น ภายใต้กติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต (105-115 ป.) ในศึก ONE 173 ที่จัดการแข่งขันขึ้น ณ สนามอาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันครบรอบวันเกิดอายุ 28 ปี ของเธอพอดิบพอดี

เกมการชกตลอดทั้ง 3 ยก เป็นทาง “แสตมป์” ที่พยายามกัดฟันสู้กับ “คานะ” อย่างสนุก แม้จะร้างเวทีไปนานจนอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัดในช่วงท้ายเกม โดย “คานะ” เป็นฝ่ายเดินไล่บี้กดดันต่อเนื่องและเป็นฝ่ายเอาชนะไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ ซึ่ง “แสตมป์” ยอมรับว่าได้สู้สุดความสามารถ แต่ร่างกายยังฟิตไม่ดีพอ เชื่อว่าไฟต์ต่อไปผลงานต้องออกมาดีกว่านี้แน่นอน

“ภาพรวมทั้งสามยก หนูมองว่าตัวเองทำได้ในระดับน่าพอใจค่ะ หนูมองเห็นอาวุธของ คานะ ตลอด คิดทันหมดว่าเขาจะออกอะไร เพียงแต่ร่างกายยังทำตามที่ใจต้องการไม่ได้เต็มที่ พอเข้ายกสุดท้าย หนูก็แทบหมดแรงแล้ว ตอนจบการแข่งขันถึงขั้นหายใจไม่ทันด้วยซ้ำ ซึ่งหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้หนูแพ้ไฟต์นี้ ก็มาจากการที่หนูห่างเวทีไปนานค่ะ”

“หนูรู้อยู่แล้วว่าคานะจะพยายามโจมตีด้วยการเตะขา เพราะเป็นสไตล์ถนัดของเขา แต่หนูยืนยันว่าหัวเข่าไม่ได้มีอาการเจ็บเพิ่ม และยังทนอาวุธของคู่ชกได้สบาย ตอนนี้หนูขอให้ร่างกายกลับมาอยู่ตัวก่อน แล้วเดี๋ยวความคิดและจังหวะการชกจะกลับมาเอง ถ้าได้ชกต่อเนื่องในไฟต์ต่อไป ระบบหายใจน่าจะดีขึ้น ทำให้หนูมีแรงสู้มากกว่าเดิมแน่นอนค่ะ”

นอกจากนี้ “แสตมป์” ยังได้ย้ำชัดว่าความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ เพราะจุดประสงค์หลักคือการได้มีโอกาสขึ้นชกจริงบนสังเวียน เพื่อฟื้นฟูทั้งสภาพร่างกายและจิตใจให้กลับมาแข็งแกร่งดังเดิมหลังพักยาว

“หนูไม่เสียใจที่แพ้ในครั้งนี้ค่ะ เพราะตั้งใจให้ไฟต์นี้เป็นการทดสอบสภาพร่างกายอยู่แล้ว ไม่ได้โฟกัสแค่ว่าต้องชนะอย่างเดียว ขอแค่มีโอกาสกลับมาชกอีกครั้ง เพื่อให้ร่างกายได้ขยับและปรับตัวใหม่ ซึ่งหนูเชื่อว่าไฟต์ต่อไปจะทำได้ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ และจะกลับมาเป็น ‘แสตมป์’ ในแบบเดิมให้ได้ค่ะ”

ขณะเดียวกัน “แสตมป์” ยังมองถึงโอกาสที่จะได้แก้มือกับ “คานะ” อีกครั้ง โดยเชื่อถ้าได้เจอกันอีกผลอาจไม่จบแบบเดิม พร้อมตั้งเป้าขอเวลาเรียกคืนความมั่นใจอีกไม่นาน ก่อนกลับไปทวงความยิ่งใหญ่บนเส้นทางสาย MMA

“ไฟต์ต่อไปหนูอยากชกในกติกามวยไทยค่ะ จะให้เจอกับคานะอีกครั้งก็ได้ เพราะรอบที่แล้วหนูไปสู้ในกติกาคิกบ็อกซิ่งที่เขาถนัด คราวนี้ถ้าลองสลับให้เขามาเจอมวยไทยของหนูบ้างก็น่าจะดี หนูเองก็อยากแก้มือกับเขาเหมือนกัน ไฟต์ที่ผ่านมาไม่ได้หมายความว่าหนูสู้ไม่ได้ เพียงแค่สภาพร่างกายยังปรับตัวได้ไม่เต็มที่ ถ้าร่างกายพร้อมกว่านี้ หนูมั่นใจว่าเราจะออกอาวุธแลกกันได้สนุกกว่านี้แน่นอนค่ะ”

“เป้าหมายต่อไป หนูอยากขึ้นชกเคาะสนิมอีกสัก 1–2 ไฟต์ เพื่อให้ร่างกายฟิตที่สุดก่อนกลับไปสู้ในกติกา MMA ขอบคุณทุกคนที่คอยเป็นกำลังใจและติดตามเชียร์กันเสมอ หนูหวังว่าจะกลับมาสมบูรณ์เต็มที่ในเร็ว ๆ นี้ และจะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้ทุกคนผิดหวังค่ะ”