"นาบิล" ปลื้มซิวชัยแรกคิกบ็อกซิ่ง เล็งสะสมชั่วโมงบินไต่บัลลังก์

“นาบิล” เฝ้ารอโอกาสแจ้งเกิดในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ภายใต้ชายคา ONE มานาน โดยเคยถูกประกบเจอกับ “เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส” อดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ในศึก ONE Fight Night 26 แต่ไฟต์ต้องถูกยกเลิกเพราะคู่ชกมีอาการป่วย

ขณะที่ในไฟต์ล่าสุด “นาบิล” ได้โอกาสดวลกับ “อิเลียส เอ็นนาฮาชิ” ผู้ท้าชิงอันดับ 2 ของแรงกิง ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต จากเนเธอร์แลนด์-โมร็อกโก ในศึก ONE ลุมพินี 126 แต่ก็ต้องจบแบบ “ไม่มีผลการแข่งขัน” หลังจากที่ “นาบิล” พลาดเตะกระจับจนอีกฝ่ายจุกลุกขึ้นยืนไม่ไหว และแข่งขันต่อไม่ได้

ล่าสุด “นาบิล” ปลดล็อกคว้าแต้มชัยแรกในสายคิกบ็อกซิ่งได้สำเร็จ เมื่อชิงจังหวะออกหมัดและสาดแข้งแบบดุดัน เอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “ฮิโรมิ วาจิมะ” นักสู้ดีกรีอดีตแชมป์ K-1 จากญี่ปุ่น ทั้งที่เจ้าตัวต้องขยับขึ้นมาชกในรุ่นเฟเธอร์เวตเป็นครั้งแรกในศึก ONE 173 ที่จัดการแข่งขันขึ้น ณ สนามอาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ช่วยให้ “นาบิล” เติบโตในกติกานี้ขึ้นไปอีกขั้น

“ไฟต์นี้ผมเตรียมตัวมาเต็มที่ครับ มีเพียงเรื่องการขยับขึ้นมาชกในรุ่นเฟเธอร์เวตที่ยังไม่ค่อยคุ้น ทำให้กังวลเรื่องแรงปะทะอยู่บ้าง ส่วนการปรับตัวไปชกที่ญี่ปุ่นก็ไม่ติดอะไร อาจจะไม่ดีเท่าตอนชกในประเทศไทย แต่โดยรวมถือว่าความพร้อมทุกด้านสมบูรณ์ครับ”

“ผมเพิ่งย้อนดูไฮไลต์การชก รู้สึกว่าทำได้ดีในยกแรกกับยกสาม ส่วนยกที่สองยังไม่ดีเท่าที่ควร เพราะบางจังหวะทำไม่ได้ตามที่คิดไว้ ยกสุดท้ายผมจึงตัดสินใจเดินเข้าทำมากขึ้น จุดที่ทำให้ชนะไฟต์นี้คืออาวุธผมหลากหลายกว่า แม้ประสบการณ์จะน้อยกว่าเขา แต่สุดท้ายผมก็สามารถชนะมาได้”

ตอนนี้ “นาบิล” ทำสถิติสุดหรูไม่แพ้ใครมา 9 ไฟต์ติดในรายการของ ONE ซึ่งการโค่น “ฮิโรมิ” ลงได้ทำให้เจ้าตัวมีความภูมิใจไม่น้อย แต่ยังคงมีอีกหลายจุดที่ต้องปรับแก้ไข เพื่อไต่ไปให้ถึงความสำเร็จที่รออยู่ปลายทาง

“ผมเพิ่งชกกติกาคิกบ็อกซิ่งใน ONE แค่สองครั้ง และไฟต์นี้ถือเป็นการพิสูจน์ว่าผมสามารถสู้กับ

ฮิโรมิ ที่เป็นอดีตแชมป์ K-1 ได้ดี ทั้งที่ต้องขึ้นชกในพิกัดใหญ่กว่าปกติ ถือว่าเป็นบททดสอบที่หนัก แต่ผมก็ผ่านมันมาได้สำเร็จครับ”

“แต่ผมยังไม่ค่อยพอใจกับผลงานในรุ่นเฟเธอร์เวตเท่าไหร่นัก เพราะคิดว่าร่างกายยังไม่เต็มเวต ต้องให้เวลาขยับขึ้นไปให้สมบูรณ์กว่านี้ ซึ่งคงเป็นเรื่องของอนาคต สำหรับตอนนี้ผมขอกลับไปโฟกัสในรุ่นแบนตัมเวตที่เหมาะกับตัวเองมากกว่าก่อนครับ”

เดิมที “นาบิล” มีเป้าหมายอยากท้าชิงบัลลังก์คิกบ็อกซิ่งจาก “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” ขณะเดียวกัน “ยูกิ โยซะ” อีกหนึ่งนักสู้คนดังชาวญี่ปุ่นที่เพิ่งเอาชนะ “ซุปเปอร์เล็ก ซุปเปอร์เล็กมวยไทย” มาได้ในรายการเดียวกัน ก็ออกมาประกาศกร้าวว่า ขอต่อคิวชิงตำแหน่งนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ราชันจากสหราชอาณาจักรอยู่ในช่วงรักษาอาการบาดเจ็บ และยังไม่แน่ชัดว่าต้องใช้เวลาฟื้นฟูร่างกายนานแค่ไหน

ทำให้ตอนนี้ “นาบิล” พร้อมอ้าแขนรับโอกาสที่จะเจอกับคู่ชกได้ทุกคนในกติกาคิกบ็อกซิ่งเพื่อสั่งสมประสบการณ์ให้มากพอและเฝ้ารอโอกาสที่เหมาะสมในการได้ท้าชิงเข็มขัดคิกบ็อกซิ่งที่หมายปอง

“ผมเห็น ยูกิ ออกมาบอกว่าอยากชิงเข็มขัดจาก แฮ็กเกอร์ตี เหมือนกัน ผมยินดีให้เขาไปเจอกันก่อนได้เลย ส่วนตัวผมยังไม่รีบ เพราะอยากสะสมประสบการณ์ในกติกาคิกบ็อกซิ่งให้มากกว่านี้ก่อน ถ้าวันหนึ่งผมได้โอกาส ผมก็จะเดินหน้าไปให้สุด และไม่ว่าใครจะเป็นแชมป์ในตอนนั้น ผมพร้อมแย่งเข็มขัดมาให้ได้ครับ”

“ผมจะพัฒนาฝีมือไปเรื่อย ๆ และทำผลงานให้ดีที่สุด ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าไฟต์หน้าจะเป็นกติกาไหนหรือเจอกับใคร แต่เป้าหมายของผมคือเก็บชัยชนะเพิ่มให้ได้ต่อเนื่อง เพราะทุกไฟต์คือบททดสอบ ฝากแฟน ๆ ติดตามกันด้วยนะครับ ผมจะพยายามทำผลงานให้ดีขึ้นทุกครั้ง และตั้งเป้าคว้าเข็มขัดคิกบ็อกซิ่งมาให้ได้ครับ”