"อิสไลย์" พร้อมบู๊ "พลอยชมพู" พิสูจน์ตัวเก่งครบเครื่อง

ไฟต์ล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 111 เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา “อิสไลย์” ฝากผลงานชิ้นโบว์แดงเอาไว้ด้วยการโชว์เพลงหมัดอัดน็อก “เนเรีย รูบิโอ” จากสเปน ตั้งแต่ยกแรก ซึ่งนอกจากจะเป็นการปลดล็อกคว้าชัยชนะแบบไม่ครบยกแล้ว เธอยังได้รับโบนัส 350,000 บาท ติดมือกลับฟิลิปปินส์เป็นครั้งแรกในรายการนี้อีกด้วย

ปัจจุบัน “อิสไลย์” ทำสถิติชนะต่อเนื่องเป็นไฟต์ที่ 3 บนสังเวียน ONE ลุมพินี และเป็นมวยหญิงที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่ง โดยเจ้าตัวเปิดใจถึงผลงานไฟต์ล่าสุด พร้อมเผยถึงเป้าหมายต่อไปในฐานะนักมวยไทยตัวแทนจากแดนตากาล็อก

“ไฟต์นั้นฉันไม่ได้ตั้งใจว่าจะน็อกตั้งแต่แรก ถึงแม้ว่าจริง ๆ ก็อยากชนะน็อกอยู่เหมือนกัน แต่ฉันอยากเดินเกมให้รอบคอบและขอแค่เอาชนะให้ได้ก่อนเท่านั้น แต่พอเห็นช่องว่าง ฉันก็ซัดหมัดเข้าลำตัวจนปิดเกมได้สำเร็จ”

“ส่วนโบนัสที่ได้มา ฉันแบ่งส่วนหนึ่งให้ทีม อีกส่วนเอาไปซื้ออุปกรณ์ใหม่ให้ที่ค่าย แล้วก็นำไปช่วยเหลือชุมชน ส่วนที่เหลือก็เก็บเข้าธนาคารค่ะ”

เป้าหมายหลังจากนี้ของฉันคือการเดินหน้าเก็บชัยชนะให้ได้ต่อเนื่อง และแสดงให้ทุกคนได้เห็นมวยไทยในสไตล์ฟิลิปปินส์ค่ะ ฉันอยากพิสูจน์ให้โลกเห็นว่านักกีฬามวยไทยจากฟิลิปปินส์ก็เก่งไม่แพ้ชาติไหน”

กลับมาครั้งนี้ “อิสไลย์” จะต้องขึ้นสังเวียนทำหน้าที่รับน้องมวยสาวหน้าใหม่อย่าง “พลอยชมพู” ที่มีอายุเพียง 16 ปี เท่านั้น และพกดีกรีแชมป์ประเทศไทย รุ่น 105 ป. มาด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเธอรู้สึกทึ่งในความสามารถเกินวัยของคู่ชกรายนี้มากทีเดียว

“พลอยชมพู อายุแค่ 16 ปี แต่ผ่านสังเวียนมาแล้วกว่า 30 ไฟต์ ทั้งระดับอาชีพและสมัครเล่น ถือว่ามีประสบการณ์มากกว่าฉันมาก ตอนอายุเท่านี้ฉันยังเพิ่งหัดออกหมัดออกเตะอยู่เลย ยอมรับว่าทึ่งในตัวน้องเขามากค่ะ”

แม้ “พลอยชมพู” ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเผด็จศึกคู่ชกจะข่มขวัญว่าพร้อมบรรเลงเพลงเข่าเล่นงานแบบจัดเต็ม แต่ “อิสไลย์” ที่ฟิตซ้อมมาเป็นอย่างดี ยังคงมั่นใจเต็มเปี่ยมว่า เธอเองก็มีทักษะการต่อสู้ครบเครื่องไม่น้อยหน้าใคร และจะสามารถสกัดทางแจ้งเกิดของ “พลอยชมพู” เพื่อสานต่อสถิติไร้พ่ายบนเวทีแห่งนี้เป็นไฟต์ที่ 4

“พลอยชมพู เป็นมวยเข่า แต่ฉันก็มั่นใจในเกมวงในของตัวเองเหมือนกัน เพราะมีพื้นฐานการป้องกันตัวดี และถ้าจังหวะได้ ฉันพร้อมเป็นฝ่ายเข้าปล้ำก่อนเลยค่ะ ไม่กลัวว่าน้องเขาจะปล้ำเก่งแค่ไหน เพราะโค้ชฝึกให้ฉันเป็นเครื่องจักรนักสู้ที่ครบเครื่อง ไม่ได้ฝึกแค่หมัดหรือเตะ แต่ยังฝึกการสู้วงในให้ด้วย”

“ฉันไม่คิดว่า พลอยชมพู จะน็อกฉันได้ แต่ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดูค่ะ เรื่องความอึดฉันไม่แพ้ใครแน่นอน ส่วนน้องเขาจะอึดแค่ไหน ฉันยังตอบไม่ได้ ใจจริงฉันเองก็อยากชนะน็อกเหมือนกัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการคว้าชัยชนะให้ได้ก่อนค่ะ”

“ไฟต์นี้สำคัญมากสำหรับฉัน เพราะมีหลายคนคาดหวังและส่งกำลังใจมาให้ ฉันอยากพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นนักสู้ครบเครื่อง เตะได้ ต่อยได้ ปล้ำได้ ตีเข่าได้ และพร้อมพัฒนาขึ้นทุกครั้งที่ก้าวขึ้นสังเวียนค่ะ”