การต้องเดินทางไกลไปยังทวีปเอเชียในช่วงเวลานี้ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องโหดร้ายเกินไปสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่อยู่ในสภาวะหัวใจแตกสลาย
อย่างที่ทราบกันดี ความพ่ายแพ้ที่ บิลเบา รอบชิงชนะเลิศ ยูโรปา ลีก ต่อ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 0-1 เป็นการตอกย้ำฤดูกาล 2024-25 ที่ล้มเหลวแบบสุดๆ
ในพรีเมียร์ลีกที่ปัจจุบันอยู่อันดับ 16 ก่อนเกมสุดท้าย ไม่มีทางจบซีซั่นสูงเกินกว่าอันดับ 14 แน่ๆ และดีไม่ดีอาจร่วงลงไปจบอันดับ 17 เลยก็เป็นได้
สภาพจิตใจของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เวลานี้ เดาไม่ยากว่าคงกำลังแหลกเหลว และไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมต่อกรกับ แอสตัน วิลล่า ทีมที่กำลังลุ้นโควต้า แชมเปี้ยนส์ ลีก
แม้เป็นเกมสุดท้ายในรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ที่ตามธรรมเนียมแล้ว ภายหลังจบเกมจะต้องมีการขอบคุณแฟนบอลไปรอบๆ สนาม พร้อมด้วยครอบครัวของผู้เล่น
แต่เพียงแค่ 4 วันหลังจากความบอบช้ำทางจิตใจที่ บิลเบา เป็นเรื่องยากที่ผู้เล่นจะปลุกเร้าตัวเองกลับมา และเป็นเรื่องยากสำหรับแฟนบอลในสนามเช่นกัน
ซ้ำร้ายกว่านั้น หลังจากจบเกมที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กับ แอสตัน วิลล่า วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม ในวันรุ่งขึ้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะต้องขึ้นเครื่องออกเดินทางไกลไปยังประเทศมาเลเซียทันที
นาทีนี้จึงดูเหมือนว่า ผู้เล่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงเอาแค่ร่างกายเดินทางไป แต่ไร้หัวใจและจิตวิญญาณ
เดิมที เกมโพสต์ซีซั่นของสโมสรพรีเมียร์ลีกถูกวิจารณ์มาโดยตลอดอยู่แล้ว โดยเฉพาะจากแฟนบอลทีมตัวเอง (ยกเว้นแฟนบอลของประเทศที่เดินทางไป)
อย่างฤดูกาลที่แล้ว นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ บินไปออสเตรเลียหลังจบเกมสุดท้ายของฤดูกาล 2023-24 ทันที เพราะมีเกมอุ่นเครื่องที่เมลเบิร์น 3 วันให้หลัง
ทั้งสองทีมเตะโชว์ด้วยสภาพร่างกายที่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง จบเกมด้วยผลเสมอ 1-1 และดวลจุดโทษตัดสิน เดอะ แม็กพายส์ คือผู้ชนะ
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เตะแค่เกมเดียว บินกลับอังกฤษเลย ขณะที่ นิวคาสเซิ่ล ลงเล่นอีกเกมในสองวันถัดมา
เอ็ดดี้ ฮาว จึงต้องใช้ผู้เล่นดาวรุ่งจากทีมเยาวชนที่เดินทางมาด้วยลงเล่นยกชุด มีเพียงผู้รักษาประตูมือสาม มาร์ค กิลเลสพี ลงเฝ้าเสาคนเดียว
บทสรุปคือแพ้ เอ-ลีก ออล สตาร์ส เละเทะ 0-8 แค่ครึ่งแรกก็โดนไปสามประตูแล้ว เป็นผลการแข่งขันที่แฟนๆ เดอะ แม็กพายส์ ไม่มีใครอยากกดเข้าไปดูไฮไลท์แน่
และทุกคนที่สโมสร นิวคาสเซิ่ล คงตั้งคำถามในใจว่า "เรามาทำอะไรที่นี่ แค่แลกกับเงินไม่กี่ล้านปอนด์เหรอ?"
นั่นคือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปีนี้
บีบีซี สื่ออังกฤษ คาดการณ์ว่า ทริปโพสต์ซีซั่นที่เอเชียราวๆ 1 สัปดาห์ จะทำเงินให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ราวๆ 7-8 ล้านปอนด์ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยอะไรหลายๆ อย่างเช่นกัน
ตามกำหนดการ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะออกเดินทางไปประเทศมาเลเซียในวันจันทร์ หนึ่งวันหลังจบเกมสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก และจะไปถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ในวันอังคาร
ไฟลท์นี้จะใช้เวลาในการเดินทางนานประมาณ 14-17 ชั่วโมง ระยะทางกว่า 10,681 กิโลเมตร จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าสภาพร่างกายของผู้เล่นจะกรอบแค่ไหน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะลงเล่นกับทีมที่ใช้ชื่อว่า อาเซียน ออล-สตาร์ส ที่มีผู้เล่นจากประเทศมาเลเซีย, ไทย, เวียดนาม, อินโดนิเซีย, สิงคโปร์, เมียนมาร์, กัมพูชา, ลาว และ ตีมอร์ เลสเต้ ในวันพุธที่ 28 พฤษภาคม
จากนั้นก็ออกเดินทางต่อไปที่ฮ่องกง ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง เพื่อลงเตะกับทีมชาติฮ่องกง วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม เป็นอันเสร็จภาระกิจโพสต์ซีซั่น และเดินทางกลับประเทศอังกฤษ
ภาระกิจของสโมสรจบ แต่ภาระกิจของผู้เล่นบางคนไม่จบ เพราะต้องเดินทางไปรายงานตัวกับทีมชาติต่อทันที ตามโปรแกรมทีมชาติในช่วงต้นเดือนมิถุนายน
อย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส กับ ดีโอโก้ ดาโลต์ ทีมชาติโปรตุเกส จะเล่นยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ไฟนอล
มัทไธส์ เดอ ลิกท์ ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ กับ มานูเอล อูการ์เต้ กองกลางทีมชาติอุรุกวัย ทำศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก
ราสมุส ฮอยลุนด์ ศูนย์หน้าทีมชาติเดนมาร์ก กับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ กัปตันทีมชาติสวีเดน มีสองเกมอุ่นเครื่อง เป็นต้น
นั่นคือภาระของผู้เล่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องแบกรับ หลายคนยังอนาคตคลุมเครือ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าซีซั่นหน้าจะยังอยู่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต่อไปหรือไม่