อย่าให้'เรือใบ'ต้องควักกระเป๋า

วันพุธที่ 11 มิถุนายน 2568 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
189
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
"มองย้อนกลับไปช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว เราน่าจะตัดสินใจเปลี่ยนแปลงบางอย่างให้มากกว่านี้ แต่เราไม่ได้ทำแบบนั้น และนั่นทำให้เราต้องเสียหายในปีนี้"

คัลดูน อัล มูบารัค ประธานสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว การตัดสินใจเสริมทัพเพียงน้อยนิด ส่งผลกระทบอย่างมากต่อผลงานในฤดูกาล 2024-25

การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัยติดต่อกัน ระหว่างฤดูกาล 2020-21, 2021-22, 2022-23 และ 2023-24 อาจทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รู้สึกย่ามใจเกินไปหน่อย เพราะเชื่อว่าขุมกำลังที่มีอยู่ในมือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังคงแข็งแกร่งพอ
ทีมของ เป๊ป ไม่ได้แสดงออกถึงปัญหาในช่วงสามเดือนแรก ที่ในพรีเมียร์ลีก ชนะ 7 เสมอ 2 ไม่มีแพ้ แต่พอเข้าสู่เดือนพฤศจิกายน เรื่องที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น เมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ 4 เกมติดต่อกันในลีก
บทจะสะดุดก็สะดุดเอาดื้อๆ ที่สำคัญสะดุดยาวด้วย ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม ไปจนถึงวันที่ 26 ธันวาคม รวมแล้ว 13 เกมรวมทุกรายการ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ถึง 9 เสมอ 3 และชนะเพียงแค่เกมเดียว
ในช่วงเวลานั้น คำถามที่อยู่ในหัวทุกคนคือ เกิดอะไรขึ้นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้?
สำหรับประธานสโมสร อัล มูบารัค สิ่งแรกที่ต้องทำคือการเสริมทัพในช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคม หลังจากการวางแผนพลาดในช่วงซัมเมอร์ที่ซื้อแค่ ซาวินโญ่ 30.8 ล้านปอนด์ จาก ทรัวส์ สโมสรในเครือซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป เหมือนกัน และเซ็นฟรี อิลคาย กุนโดอาน กลับมาจาก บาร์เซโลน่า
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ใช้เวลา 4 วัน เปิดตัวรัวๆ อับดูโคดีร์ คูซานอฟ เซนเตอร์แบ็กทีมชาติอุซเบกิสถานจาก ล็องส์ 33.6 ล้านปอนด์, วิตอร์ เรส กองหลังบราซิลจาก พัลเมราส 29.6 ล้านปอนด์, โอมาร์ มาร์มูช กองหน้าทีมชาติอียิปต์จาก ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 59 ล้านปอนด์
และปิดท้ายที่ นีโก้ กอนซาเลซ กองกลางทีมชาติสเปนจาก ปอร์โต้ 50 ล้านปอนด์ รวมแล้วตลาดต้นปีใช้จ่ายไปคร่าวๆ เกือบแตะหลัก 180 ล้านปอนด์
ภาพรวมในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ยังไม่ได้กลับสู่ฟอร์มที่ดีที่สุด และการเสริมทัพทั้ง 4 คนก็ยังคงต้องใช้เวลาปรับตัวมากน้อยแตกต่างกัน
นั่นทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องทุ่มงบเสริมทัพหนักหน่วงอีกครั้งในช่วงซัมเมอร์
สองวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายช่วงแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จัดการเซ็นสัญญารวดเดียว 4 คน
รายาน เอต-นูรี แบ็กซ้ายทีมชาติแอลจีเรีย 31 ล้านปอนด์ จาก วูลฟ์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส
รายาน แชร์กี ปีกทีมชาติฝรั่งเศส 30.45 ล้านปอนด์ จาก โอลิมปิก ลียง
ทิจจานี่ ไรน์เดอร์ส กองกลางทีมชาติเนเธอร์แลนด์ 55 ล้านปอนด์ จาก เอซี มิลาน
และ มาร์คัส เบตติเนลลี่ ผู้รักษาประตูจาก เชลซี เข้ามาเป็นมือสาม
เพียงแค่ตลาดช่วงแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ใช้จ่ายไปทะลุหลัก 110 ล้านปอนด์ไปแล้ว และเมื่อรวมตัวเลขการเสริมทัพในปี 2025 เฉียดๆ 300 ล้านปอนด์ (หรืออาจถึงก็ได้ เพราะค่าตัวเป็นตัวเลขตามคาด)
การดำเนินการอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่แค่เหตุผลที่ต้องการใช้งานผู้เล่นใหม่ในศึกฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ เท่านั้น แต่แสดงให้เห็นว่า สโมสรพร้อมสนับสนุนการทำงานของ เป๊ป อย่างเต็มที่
เหมือนปีแรกที่ เป๊ป เข้ามาคุมทัพแล้วจบมือเปล่าในฤดูกาล 2016-17 จากนั้นสโมสรก็ซื้อแหลกแตะหลัก 200 ล้านปอนด์ในช่วงซัมเมอร์ บวกกับอีก 57 ล้านปอนด์ในเดือนมกราคม จนได้สัมผัสแชมป์พรีเมียร์ลีกในปีต่อมา
จึงเป็นสัญญาณเตือนว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมแล้วที่จะทวงความยิ่งใหญ่กลับคืนมาในฤดูกาล 2025-26

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด